ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศระดับโลก เดินหน้าเชื่อมต่อผู้คนและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น (Connecting people, improving lives) เนื่องในโอกาสวันอาสาสมัครสากล (Global Volunteer Day) โดยดีเอชแอลสนับสนุนให้พนักงานมีจิตอาสา และช่วยเหลือสังคม นอกจากกิจกรรม CSR ต่าง ๆ ของบริษัทในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดแล้ว ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ยังบริจาคตู้ตรวจคัดกรองโควิด-19 ความดันบวกจำนวน 19 ตู้ รวมมูลค่า 1.2 ล้านบาท ให้กลุ่มบุคลากรการแพทย์อาสา Thai CoCare เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยให้กับบุคลากรด่านหน้าในระหว่างการปฏิบัติงาน
ตู้ตรวจคัดกรองโควิด-19 เหล่านี้มีน้ำหนักเบา ถูกออกแบบให้พับเก็บและประกอบง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก เพื่อให้หน่วยบุคลากรการแพทย์อาสาได้ปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วและสะดวก โดยสามารถตรวจโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มากขึ้น นอกจากนี้ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ยังได้บริจาคถุงยังชีพให้แก่ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอคิวรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 300 ถุง ซึ่งบรรจุอาหารแห้งและอาหารที่ให้พลังงาน อีกทั้งอาสาสมัครดีเอชแอลยังช่วยสนับสนุนการทำงานของกลุ่มแพทย์อาสา Thai CoCare ในการตรวจคัดกรองโควิด-19 อีกด้วย
Thai CoCare คือกลุ่มบุคลากรการแพทย์อาสามากกว่า 2,000 ชีวิต ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักจิตวิทยา และผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ต่าง ๆ โดยให้คำปรึกษา และดูแลสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยระหว่างรอเตียงโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยที่เข้าระบบ Home Insolation ผ่านแอพพลิเคชัน CoCare ในขณะเดียวกัน Thai CoCare ก็ยังมีทีมที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่ระบาดหนักในเขตชุมชนเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อ
คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “ช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เราต้องช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาด ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ได้ตระหนักถึงภารกิจนี้ แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทฯ ภูมิใจที่พนักงานของเราได้ช่วยเหลือสังคมในทันทีด้วยความเข้าอกเข้าใจ (empathy) และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของพวกเขา พนักงานจากทุกแผนกได้ใช้ความสามารถของตนเพื่อช่วยเหลือผู้คนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมุ่งมั่นสานต่อวัตถุประสงค์ขององค์กร “เชื่อมต่อผู้คน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น” (Connecting people, improving lives) ผ่านโปรแกรม GoGreen, GoHelp, GoTeach และ GoTrade ในชุมชนที่เราอาศัยและดำเนินงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด ESG เพื่อความยั่งยืน”
นายแพทย์ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ผู้ก่อตั้ง Thai CoCare กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่สงบ การเฝ้าระวังเชิงรุกและให้การรักษาทางการแพทย์แก่ผู้ติดเชื้อจึงยังจำเป็นอย่างยิ่ง ตู้ตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่ได้รับจากดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยบุคลากรการแพทย์ของเราคัดกรองผู้ป่วย และยังช่วยประหยัดในการใช้ชุด PPE ของบุคลากร ที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ลดความเสี่ยงระหว่างการตรวจคัดกรอง และมีความปลอดภัยมากขึ้น เสริมความมั่นใจในการตรวจคัดกรองของทีมแพทย์ และสามารถช่วยประชาชนได้อย่างเต็มที่”
ตู้ตรวจโควิดความดันบวกนี้ มีระบบและการควบคุมความดันที่เหมาะสม เพื่อให้บุคลากรการแพทย์สามารถอยู่ในห้องตรวจโดยไม่มีเชื้อปนเปื้อนในอากาศ โดยด้านในเป็นระบบปิดด้วยการปรับแรงดันอากาศ มีประตูเปิด-ปิดอย่างแน่นหนาเพื่อความปลอดภัย และมีช่องสำหรับสอดมือเพื่อทำหัตถการ ซึ่งตู้นี้รองรับการใช้งานของเจ้าหน้าที่ได้ครั้งละ 3 คนในเวลาเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด PPE แบบเต็ม ทำให้การคัดกรองมีความสะดวก รวดเร็ว และเพิ่มระดับความสามารถในการให้บริการ
ปัจจุบัน ตู้ตรวจโควิดความดันบวกทั้ง 19 ตู้ ได้ถูกส่งให้กับกลุ่มแพทย์อาสา Thai CoCare เพื่อจัดสรรไปยังสถานพยาบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช สำนักงานป้องกันโรคเขตเมือง มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย กลุ่มคลองเตยดีจัง โรงพยาบาลสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลกงหรา จ.พัทลุง โรงพยาบาลควนโดน จ.สตูล รวมถึงสำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พนักงานดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ยังได้จัดทำถุงยังชีพบรรจุอาหารแห้ง และเขียนข้อความมอบกำลังใจ ส่งมอบให้มูลนิธิ 12 แห่ง และชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงบริจาคข้าวสารมากกกว่า 5,000 กิโลกรัมผ่านมูลนิธิต่าง ๆ นอกจากนี้ พนักงานคอลล์เซ็นเตอร์ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส จำนวน 25 คน ยังได้อาสาช่วยหน่วยงานสายด่วนของภาครัฐ และดูแลสภาพจิตใจประชาชน โดยให้คำปรึกษากับประชาชนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8,042 ราย
ดีเอชแอลยังได้ทำหน้าที่สำคัญโดยการขนส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่า 1 พันล้านโดสไปมากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการดำเนินการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคล็อตแรกจำนวน 1.5 ล้านโดสที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาบริจาคให้กับประเทศไทย