นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า ทางสำนักอำนวยความปลอดภัย ได้สรุปรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำ เดือน ต.ค.64 พบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง จำนวน 1,075 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 146 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 673 คน จำนวน รถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,693 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 11 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือน ต.ค.63 จำนวนอุบัติเหตุลดลงจากปีที่ผ่านมา 36% ผู้เสียชีวิตลดลง 38% บาดเจ็บ ลดลง 43% จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุลดลง 34% ซึ่งสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 83% (890 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 6% (66 ครั้ง) อุปกรณ์รถบกพร่อง 4% (46 ครั้ง) และหลับใน 4% (43 ครั้ง)
สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 67% (723 ครั้ง) ทางโค้งปกติ 15% (151 ครั้ง) และจุดเปิดเกาะกลางถนน 6% (60 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 39% (657 คัน) รถยนต์นั่ง 30% (500 คัน) และรถจักรยานยนต์ 10% (171 คัน)
ซึ่งหากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุพบว่า เส้นทางในภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 20% กรุงเทพและปริมณฑล 19% และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18% นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 7 ตอน แขวงคลองสองต้นนุ่น – พิมพา จำนวน 60 ครั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่ากรุงเทพมหานคร เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย ของท่านและผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลอีกด้วย