ขนส่งฯเผยสถิติเก็บภาษีรถประจำปีเขตกทม.ปี64 พบผู้ใช้บริการทะลุกว่า5.9ล้านคัน สนง.ขนส่งกทม.พื้นที่1-5 มากสุด รองมาใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี ย้ำเดินดินหน้าสนับสนุนบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกช่องทาง เน้นสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยจากโควิด-19บนวิถีชีวิตยุค New Normal
นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก มุ่งมั่นพัฒนาช่องทางการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุค New Normal เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถชำระภาษีรถประจำปีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดยมีช่องทางให้เลือกใช้บริการหลากหลายช่องทาง และสามารถดำเนินการชำระภาษีรถได้ล่วงหน้าก่อนครบอายุภาษี 90 วัน
ในปีงบประมาณ 2564 (เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564) สถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น 5,934,319 คัน จำแนกเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด จำนวน 4,295,169 คัน รองลงมาคือการใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 811,029 คัน ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 499,862 คัน ยังมีบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส มีผู้ใช้บริการจำนวน 138,109 คัน ชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าตามโครงการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) จำนวน 103,645 คัน ในส่วนของบริการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 36,800 คัน และบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) มีผู้ใช้บริการจำนวน 15,176 คัน ศูนย์บริการร่วมคมนาคม จำนวน 13,851 คัน
นอกจากนี้ บริการชำระภาษีที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 10,951 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 9,613 คัน และผ่านธนาคาร จำนวน 114 คัน จากสถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปี ในปีงบประมาณ 2564 พบว่ามีเจ้าของรถใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการชำระภาษีผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th คิดเป็นร้อยละ 90.58 รองลงมาคือการใช้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ร้อยละ 6.67 และบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ร้อยละ 2.75 เนื่องจากมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2565 กรมการขนส่งทางบก เน้นผลักดันการให้ผู้เสียภาษีรถประจำปีใช้บริการชำระภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น โดยยกระดับมาตรฐานการให้บริการรองรับการดำเนินชีวิตยุค New Normal ของประชาชน สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี หรือรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี สามารถชำระภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว โดยนำรถเข้าตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax รอรับเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน ทั้งนี้ การชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้พัฒนาบริการรับชำระภาษีรถประจำปีอีกหลากลายช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาสำนักงานขนส่ง และช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อาทิ เว็บไซต์ https://eser