นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 1 พายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม 64 และอาจทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์ดังกล่าว ตนจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งแปรไปสู่การปฏิบัติรวมถึงให้มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที ส่วนเส้นทางสัญจรไหนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท หากน้ำลดให้เตรียมพร้อมเข้าฟื้นฟูทันที นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ประชาสัมพันธ์การดำเนินการให้ประชาชนให้รับทราบด้วยและรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ รับทราบทุกวัน
พายุซัดโครงข่ายคมนาคมพังยับ 57 เส้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคมนาคม โดยศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม ได้สรุปรายงานอุทกภัยในเส้นทางคมนาคม ข้อมูล ณ วันที่ 12 ตุลาคม 64 พบว่า มีโครงข่ายคมนาคมได้รับผลกระทบ รวม 57 เส้นทาง จำนวน 84 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 45 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้ 39 แห่ง ส่วนถนนทางหลวงและทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ รวม 56 เส้นทาง จำนวน 83 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 45 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้ 38 แห่ง
สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย มีทั้งหมด 17 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง จังหวัดขอนแก่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัด มหาสารคามและ จังหวัดนครสวรรค์
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังสามารถเปิดขบวนรถวิ่งได้ตามปกติทุกสายทาง ขณะที่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ผู้ให้บริการรถขนส่งผู้โดยสาร ได้มีการปรับเส้นทางรถโดยสารเว้นทาง พิจิตร ได้แก่ สาย 47 กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง, สาย 957 กรุงเทพฯ – แม่สาย และ สาย 962 กรุงเทพฯ – ป่าแดด – เชียงของ เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง ทล.117 นครสวรรค์ – พิษณุโลก แทน
ทั้งนี้ ทางหลวงหมายเลข11 กม. 68+725 และกม. 68+750 พื้นผิวถนนชำรุด ปัจจุบันแขวงทางหลวงนครสวรรค์ที่ 2 ดำเนินการติดตั้งสะพานเบลีย์ เปิดให้รถเล็กผ่านใช้เป็นการชั่วคราว 1 ช่องทาง แต่รถโดยสารและรถ 6 ล้อขึ้นไปยังไม่สามารถผ่านได้ ส่วนกรมเจ้าท่า ได้มีการตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดชุดถุงยังชีพ อาหาร และน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชนพร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ด้านกรมทางหลวงชนบทนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งจัดรถรับ – ส่ง และมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย
นอกจากนี้ กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้ติดตั้งป้ายเตือนและป้ายแนะนำเส้นทาง รวมทั้งหาเส้นทางเลี่ยงและเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจรในพื้นที่เกิดประสบเหตุอุทกภัย ในส่วนของท่าเรือและท่าอากาศยาน ยังไม่มีรายงานการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย