จับ-ปรับไม่จริงตรงไหน?เอาปากกามาวง!จัดหนักสายแบกบนถนนสาย347(ปทุม-บางปะหัน)

0
209

เรียกได้ว่าถ้าไม่ตบไม่ตีไม่ดีขึ้นเลย หรือหากไม่มีการร้องเรียน…คงไม่มีหน่วยงานไหนลงมาดูดำดูแดงสารพันทุกข์ชาวบงชาวบ้านหรือเปล่าน้อพระเดชพระคุณท่าน?

เพราะหลังมีผู้ร้องเรียนบนถนนสาย 347 (ปทุม-บางปะหัน)ที่พาดผ่านพื้นที่ อ.บางปะอิน โดยเฉพาะเส้นทางขาเข้ากทม.เกิดปัญหาพังเสียหาย มีเศษดินตกหล่นบนผิวการจราจรช่องทางซ้ายสุด -ไหล่ทาง ประกอบช่วงหน้าฝนทำให้ไหล่ทางเต็มไปด้วยโคลน และเกรงจะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงมาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาบ้างไรบ้าง!

ร้อนไปถึงแขวงทางหลวงอยุธยาลงพื้นที่ตรวจสอบพบต้นเหตุจากรถบรรทุกดินและทรายจากบ่อดินทรายในพื้นที่เขตติดต่ออ.บางปะอิน,บางไทร และบางบาล ที่ผู้ประกอบการมักใช้เส้นทางถนนสาย 347 ลำเลียงดิน-ทรายเข้ากทม.และเขตปริมณฑลจนทำเศษดินตกหล่น จึงได้เข้าไปแจ้งเตือนคาดโทษผู้ประกอบการแล้วและขอให้เพิ่มความรัดกุม

พร้อมทั้งประสานงานไปยังตร.ทางหลวง และตร.สภ.อ.บางปะอิน เข้มงวดกวดขันการบังคับใช้กฎหมายโดยปักหมุดตั้งด่านตรวจตาชั่งลอยในทุกวันเพื่อจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด และรถบรรทุกดินทรายทุกคันต้องมีผ้าใบปิดคลุมกระบะบรรทุกเพื่อป้องกันดินตกหล่นบนท้องถนน

ต่อเนื่องด้วยผอ.แขวงทางหลวงอยุธยา “สุนทร แก้วศรีใส”มอบดาบอาญสิทธิ์ให้รอง ผอ.แขวงทางหลวงอยุธยา “ฉลาดนภ ธงทอง”นำเจ้าหน้าที่พร้อมสนธิกำลังตร.ทางหลวง และ สภ.อ.บางปะอินออกตั้งด่าน ตาชั่งลอยเพื่อจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และรถบรรทุกดินทรายไม่ยอมปกปิดผ้าใบคลุมท้ายกระบะบรรทุก บนถนนสาย 347 เขต อ.บางปะอิน

พร้อมทั้งยืนยันว่ารถบรรทุกแบกน้ำหนักเกินหากถูกจับได้จะมีกฎหมายลงโทษรุนแรง เพราะโทษปรับแพงมาก คือมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังเพิ่มบทลงโทษขั้นสูงสุด ปรับถึง 1 แสนบาทกับเจ้าของรถที่เป็นผู้ประกอบการขนส่งขนบรรทุก รวมถึงผู้จ้างซึ่งเป็นลูกค้าปลายทางด้วยเช่นกัน

แหม่ะ!!!ประชาชนผู้เดินดินกินข้าวแกงเห็นความไม่นิ่งนอนใจและมุ่งมั่นจริงจังของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้วก็อุ่นใจสบายใจระดับหนึ่ง นอกเหนือจากความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมาบนท้องถนนแล้ว ฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐก็จะได้บังคับใช้กฎหมายผู้กระทำผิด เข้มงวดกวดขันเพื่อจับ-ปรับตามกฎหมาย

ทว่า ประชาชนคนเดินดินกินข้าวแกง(คนเดิม)ไม่ขอไรบ้างเพียงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้ารัฐได้เข้มงวดกวดขันจริงจังจริงใจให้ต่อเนื่องและลงดาบปราบหนักๆให้สิ้นซากละกันค้าบเจ้านาย ไม่ใช่โผล่มาเป็นพักๆพอเป็นข่าวออกสื่อแล้วอีกสักพักก็หายไปพร้อมกับสายลมและแสงแดดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เพราะวงจรอุบาทว์“แบกน้ำหนัก”นี้มันมีศาสตร์และศิลป์ฝังรากลึกไว้อย่างแยบยล แถมหนังเหนียวเหมือนจอมขมังเวทย์ที่ฆ่ายังไงก็…ฆ่าไม่ตาย แถมคนในวงการต่างรู้ไส้รู้พุงกันดีว่าทำอย่างไร?ด้วยวิธีการไหน?รถบรรทุกน้ำหนักเกินถึงจะวิ่งได้สะดวกโยธิน?หรือวิธีไหนวิ่งไปแล้วอาจ…จะเจอตอ?แล้วต้องใช้วิทยายุทธพลังภายในเยอะบานเบอะกว่าจะ“ถอนตอ”ขึ้นมาได้

วิธีการใดน่ะหรอ?ไม่อยากจะพูดมากเจ็บคอ!หุหุ…ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ทั้งฝั่งผู้ประกอบการ-เจ้าหน้าที่รัฐน้ำเลวบางคนบางกลุ่ม!

เอาแค่โจทย์แรกง่ายๆ…”สติกเกอร์หน้ารถ”มีไว้ทำซากอะไร????เอาปากกามาวงเลย!

:ปีศาจขนส่ง