ยังไม่ได้เงินสักบาท!…สมาคมสายการบินประเทศไทย ยืนยันยังไม่ได้เงินกู้จากรัฐบาล-ติดอยู่ในขั้นตอนปรับเงื่อนไขค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย.
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า ภายหลังจากสายการบินทั้ง 7 สาย ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เพื่อขอความอนุเคราะห์และติดตามรัฐบาลในการอนุมัติเงินกู้เพื่อรักษาสภาพการจ้างงานพนักงาน กว่า 2 หมื่นคน ซึ่งหลังจากนั้นสายการบินบางส่วนได้ทยอยประกาศหยุดกิจการชั่วคราว พร้อมงด หรือเลื่อนจ่ายเงินเดือนพนักงานออกไป เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนในการดำเนินงานไว้ได้แล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 มีรายงานข่าวและทำให้มีผู้สอบถามมายังสมาคมฯ จำนวนมาก กรณีสายการบินทยอยได้รับสินเชื่อเงินกู้ช่วยเหลือตามนโยบายกระทรวงการคลังเพื่อรักษาสภาพการจ้างงานพนักงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ตลอดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา สายการบินได้พยายามปรับตัวอย่างดีที่สุด รวมทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการได้รับความช่วยเหลืออย่างดี จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ในการออกมาตรการผ่อนปรนการชำระหนี้หรือปล่อยกู้ให้กับสายการบินต่าง ๆ เพื่อประคองธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการยื่นขออนุมัติเงินกู้โดยตรงต่อรัฐบาลถือเป็นมาตรการสำคัญที่สมาคมฯ ดำเนินการโดยมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเพื่อรักษาการจ้างงานพนักงานสายการบินในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต่อเนื่องยาวนาน เกินกว่าที่จะควบคุมและคาดการณ์ได้
นายพุฒิพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ถึงวันนี้สมาคมฯยืนยันว่า ยังคงไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้เพื่อรักษาสภาพการจ้างงานจากรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งทราบว่าผ่านความเห็นชอบในหลักการจากสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ติดอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาค้ำประกันสินเชื่อจาก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้สอดคล้องกับธุรกิจสายการบิน ซึ่งต้องขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลช่วยเหลือในการพิจารณาเร่งรัดแก้ไขข้อกำหนดโดยเร็วที่สุดต่อไป
“สมาคมฯ ขอขอบคุณทุกความปรารถนาดีจากทุกท่านที่สอบถามความคืบหน้าถึงการยื่นขออนุมัติเงินกู้ เพื่อรักษาสภาพการจ้างงานจากรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าพวกเราจะได้รับการอนุมัติเงินกู้ในเร็ววันนี้ พร้อมผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลำบากกลับมาให้บริการอีกครั้งไปด้วยกัน”