อันกาลเวลามันช่างผ่านไปอย่างไวเหมือนประพฤติผิลศีลข้อ 4 อะไรอย่างงั้นจริงๆพระเดชพระคุณท่าน นี่เผลอแป๊ปเดียวก็ปาเข้ามาถึงครึ่งปีแล้วท่ามกลางการสู้ศึก&ปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งกับเจ้าไวรัสมหาประลัยโควิด-19 ที่มันเล่นงานจนอ่วม&งอมพระรามลุกลามบานปลายมาระลอกที่ 3 จวนจะครบ 2 ขวบปีแล้วท่ามกลางคาดหวังคนไทยทั้งประเทศแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กับการดับซ่าส์เจ้าไวรัสมรณะนี้ลงได้
และที่สำคัญก็ไม่รู้ชะตากรรมด้วยว่าการศึกสงครามกับศัตรูที่มองไม่เห็นนี้มันจะถึงจุดจบลงเมื่อใดกันแน่?
ด้วยภาวะดำรงชีพลำบากเช่นนี้ย่อมกระทบวงล้อการตะบันอาชีพกระบอกเสียงสังคมในมุมข่าวได้ยากยิ่งขึ้น คงมีแต่แหล่งข่าวตัวพ่อในตำนานที่เคยตีวงล้อมคลุกเข่าคุยข่าววงในยุทธจักรรถใหญ่กันในอดีตพอได้ยกหูสอบถามความเคลื่อนไหวบ้างไรบ้าง อย่างเช่นสำนักบู๊ตึ๊งฟูโซ่ตันจงฯโดยจอมยุทธ์การตลาดมือฉมัง “พี่เอ-ธนภัทร อินทวิพันธุ์” รองประธาน บริษัท ฟูโซ่ ทรัค (ประเทศไทย) จำกัด
ครั้งล่าสุดที่ได้ยกหูสนทนาข่าวสารก็เมื่อช่วงเดือนเม.ย.64 ที่ผ่านมา เมื่อครั้งนั้นทราบว่าทิศทางลมการระบายสต๊อกรถฟูโซ่ที่มีอยู่ในกำมือฟูโซ่ตันจงฯอยู่ในทิศทางขาขึ้นสะสมยอดขายเป็นที่น่าพอใจหน่วยเหนือยิ่งนักแล คีย์เวิร์ดสำคัญโฟกัสอยู่ที่เป้าหมายการล้างสต๊อกฟูโซ่ที่เหลืออยู่ในกำมือตังจงฯประมาณ 200 คันตามที่ท่านเจ้าสำนักบู๊ลิ้มได้เลยลั่นวาจาเอาไว้จะสามารถโชว์กระบวนยุทธ์ระบายให้หมดเกลี้ยงภายในปีนี้ ส่วนรถใหญ่ยี่ห้อ MAN ทั้งบัสและรถบรรทุกที่มีอยู่ในสต๊อกในเวลานี้หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะหมดสต๊อกไปพร้อมๆกับฟูโซ่เช่นเดียวกัน
“ด้วยภาวะการณ์เช่นนี้เราต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ทั้งในแง่มุมกลยุทธ์การตลาดและการเข้าถึงลูกค้าต้องตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าชนิดที่พึงพอใจและรับได้ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้งพฤติกรรมการซื้อ-ขายของตลาดในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปจากครรลองเดิมๆไปอย่างมาก ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวและก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง”ท่านเจ้าสำนักบู๊ตึ๊งฟูโซ่ตันจง ได้เคยหล่นมุมคิดมุมมองการปรับตัวเข้ากับภาวะตลาดได้อย่างน่าคิดในเวลานั้น
ครั้นมาถึงการยกหูสนทนาข่าวคราวความเคลื่อนขบวนล่าสุดนี้ ข้าน้อยเลยขออัพเดทสถานการณ์ภาคต่อจากภาคก่อนหน้านี้ถึงการระบายสต๊อกในมือตันจงฯ ซึ่งคุณพี่เอก็ได้ร่ายให้ฟังว่าตามแผนก่อนหน้านี้กะว่าจะล้างสต๊อกให้เกลี้ยงภายในสิ้นปี 64 นี้ แต่ดูทิศทางลมขาขึ้นแล้วคาดว่าไม่น่าเกินเดือนก.ย.นี้ สต๊อกรถฟูโซ่ที่เหลืออยู่ในมือล่าสุดประมาณ 40 คันก็จะถูกระบายออกไปหมดแล้ว
“ถือเป็นการปิดตำนานรถบรรทุกฟูโซ่ที่มีอยู่ในมือตันจงฯนับตั้งแต่ไม่รับการต่อสัญญาในฐานะดิสทริบิวเตอร์กับความท้าทายระบายสต๊อกรถฟูโซ่ทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1,200 คัน โดยใช้เวลา 5 ปีในการปิดจ็อบระบายสต๊อกให้เหลือเป็น 0 คันได้”
ส่วนสต๊อกรถบรรทุก MAN ทั้งในส่วน GTS และ CLA ภายในเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้ก็จะมีการเซ็นสัญญากับลูกค้าและจากนั้นก็จะไม่เหลือรถในสต๊อกแล้วเช่นกัน ขณะที่แชสซีส์บัส MAN ทั้งหมด 74 คันก็จะทำการเซ็นสัญญากับลูกค้าต่างประเทศส่งออกไปหมดสต๊อกตามรอบเวลาที่วางไว้เช่นเดียวกัน
ข้าน้อยไม่รอช้าชิงถามไปว่าขายหมดสต๊อกหมดหน้าตักแล้วจะมีอะไรเหลือให้ท่านเจ้าสำนักได้โชว์วิทยายุทธ์การขายอีกเล่า?ท่านจอมยุทธ์แห่งสำนักบู๊ตึ๊งฟูโซ่ตันจงฯก็บอกว่าในเครือตันจงก็ยังมีแบรนด์โฟตอนให้ได้ตะบันหน้าที่อันท้าทายต่อไป และที่สำคัญตันจงก็ยังมีโปรเจ็กต์ใหม่ๆที่เกี่ยวกับแวดวงรถเพื่อการพาณิชย์ที่เด้งรับเมกะเทรนด์การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีโลกสมัยใหม่ให้ได้ท้าทายอีก ส่วนจะเป็นอะไรนั้นท่านเจ้าสำนักขออนุญาต Oops เป็นความลับเอาไว้ก่อน!
ภาวะวิกฤติโควิดอย่างนี้ไม่ถามก็ไม่ได้ว่าได้รับผลกระทบหรือไม่?อย่างไร?ท่านเจ้าสำนักก็ตอบตรงๆโดยไม่ต้องโต๊ดว่า “หนัก”แต่ในความหนักเราสามารถ“เอาตัวรอด”มาได้ทุกวิกฤติ ซึ่งไม่ใช่แค่วิกฤติโควิดเท่านั้นรวมถึงทุกวิกฤติในรอยอดีตที่เราเผชิญมา ทั้งนี้ก็เพราะเราได้ปรับกระบวนยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ในเวลานั้นๆ วิกฤติโควิดขบวนล่าสุดก็เช่นกันที่เราปรับตัวทั้งกระบวนท่าในเชิงรุก รับ และรบชนิดวิ่งสู้ฟัดเจ้าไวรัสร้ายนี้ ที่แม้ว่าจะมีฤทธาภิเดชแรงขนาดไหนก็ตาม
“กลยุทธ์การตลาดเวลานี้ไม่คิดอะไรมากเพราะห้วงนี้เป็นภาวะตลาดของผู้ซื้อ เราใช้วีธี Cut Loss เพื่อกันความเสี่ยงที่อาจจะพอกพูนต้นทุนมากขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกสต๊อกที่เรามีอยู่ไว้ เพราะเราถือว่าเราได้กำไรคืนมาแล้วมาก่อนหน้านี้”วลีเด็ดที่จอมยุทธ์ฝั่งเมืองปทุมได้ร่ายสรุปทิ้งท้ายเอาไว้
ท้ายขบวนสนทนาต่างฝ่ายก็ฝากดูแลสุขภาพอยู่รอดปลอดภัยจากไวรัสมหาประลัยตามประสาพี่น้องต่างวิถีการงานที่เคยร่วมกรำศึกในสมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยมาร่วมทศวรรรษ ว่าแต่ว่าฟากจอมยุทธ์ฝั่งปทุมได้สุขสมไปเต็มอิ่มครบ 2 โดสไปแล้ว ส่วนข้าน้อยหอยสังข์ยังไม่เคยเปิดบริสุทธิ์เลยสักโดสเดียว ยังต้องหาวรอต่อไป…เพราะวัคซีนเล่นไม่มาตามนัด!
ไว้โควิดมันซาลง(แต่ไม่รู้เมื่อไหร่)ข้าน้อยคงหาโอกาสเหมาะๆข้ามคลองรังสิตไปร่วมวงฉันชาเขียวพลางสนทนาธรรมนำสุขกันอีกสักครานะขอรับรับศิษย์พี่ ณ สำนักบู๊ตึ๊งฝั่งปทุมฯ!
สำหรับข้าน้อยที่พอรู้เห็นปรากฎการณ์ตลอดระยะเวลาที่ค่ายชบาแดงได้ระเริงร่า&สะบัดช่อเบ่งบานภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของกลุ่มตันจงฯในห้วงเวลาที่รุ่งโรจน์สุดขีดในป่าดงดิบสิบล้อเมืองไทย และถึงคราช่อค่อยๆร่วงโรยหลังกลุ่มตันจงไม่ได้รับการต่อสัญญาในฐานะดิสทริบิวเตอร์เพื่อสานต่อความเจิดจรัสในทุ่งลาเวนเดอร์รถใหญ่เมืองไทยต่อไป
และอีก 5 ปีต่อมาหลังจากนั้้นกลุ่มตันจงต้องใช้เวลา5ปีต่อการงัดกระบวนยุทธ์การตลาดเพื่อล้างสต๊อกกว่า 1,200 คันที่มีอยู่ในมือจนหมดเกลี้ยงภายใต้ข้อจำกัดอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพลที่เหลือน้อยในมือ ถือเป็น5ปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับผู้บริหารสูงสุดต่อการขับเคลื่อนองค์กรในภาวะเช่นนี้ และต้องจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์แวดวงรถบรรทุกเมืองไทยสู่การปิดตำนานเส้นทาง”รักซ่อนเงื่อน”ของค่ายชบาแดงในรังรัก TC ในที่สุด!
:กระบี่ไร้นาม