ขนส่งทางรางเต้น!แจงที่มาที่ไปของมาตรการเหตุงดพูดคุยขณะนั่งในรถไฟฟ้า ย้ำ!ไม่ได้ห้ามลอยๆ แต่มีข้อมูลทางวิชาการด้านสาธารณสุข ซึ่งช่วยระงับการแพร่โรคระบาดโควิดได้
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) กล่าวว่า จากกรณีที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ออกประกาศเรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 10 โดยหนึ่งในมาตรการที่ ขร. ได้ประกาศไว้ในข้อ 5. กำกับดูแล ตรวจติดตาม และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ได้แก่ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางราง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อเข้าและออกจากระบบ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดคัดกรอง และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ นั้น ได้สร้างความสงสัยให้กับประชาชนและผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางถึงสาเหตุและที่มาของการกำหนดให้ผู้โดยสารงดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางรางว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดถึงได้กำหนดมาตรการขึ้นมาในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นทาง ขร. ขอแจ้งให้ทราบว่าข้อกำหนดที่ระบุให้งดสนทนาขณะใช้บริการระบบขนส่งทางรางนี้ ไม่ได้เพิ่งกำหนดออกมาเพื่อบังคับใช้ในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ข้อกำหนดดังกล่าวได้ถูกกระบุไว้ในมาตรการเพื่อรองรับการเดินทางที่จะเพิ่มขึ้นภายหลังการเปิดภาคเรียนในรูปแบบฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 63 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจากการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 9/2563 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 63 โดยเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มขีดความสามารถด้านการบริการขนส่งสาธารณะเพื่อรองรับการเปิดภาคการศึกษา ซึ่งกำหนดให้งดการพูดคุยและต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการเดินทางควบคู่กับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอื่นๆ
