หากนับ“กรุงเทพฯ“คือเมืองหลวงของไทยแลนด์แดนศิวิไลซ์ฉันใดแล้วล่ะก็ “ท่าเรือแหลมฉบัง”ก็ไม่ต่างอะไรก็เมืองหลวงด้านคมนาคมขนส่งไทยฉันเพลแหล่ะคุณโยม!
ขึ้นชื่อว่าเมืองหลวงแม้มันจะล้วนอุดมไปด้วยความเจริญทันสมัย ศูนย์รวมแห่งความมั่งคั่ง อัครสถานความบันเทองที่ไม่มีมิติแห่งการหลับไหลก็ตาม ทว่า มันก็มักหมักหมมและแฝงไปด้วยสารพันปัญหาที่แสนจะวุ่นวายขายปลาช่อน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุดคลาสสิคเมืองหลวงทั่วโลกอย่างปัญหาจราจรติดขัด ฝุ่นพิษ-มลภาวะทางอากาศและเสียง ปัญหาทางสังคมที่ประเดประดังถั่งโถมให้คนกรุงปวดกบาล
“ท่าเรือแหลมฉบัง”ก็ไม่ต่างกันเลยจริงๆ ที่แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งสินค้านำเข้า-ส่งออกของไทย อัครสถานลานจอดหัวลาก-หาง-ตู้และห่วงโซ่ด้านการขนส่งทุกกระเบียดนิ้ว และอาจกล่าวได้ว่าที่นี่…คือแหล่งรวมสิงห์รถบรรทุกบนอาชีพหลังพวงมาลัยในทุกหมู่เหล่ามากที่สุดของไทยก็ว่าได้
ที่แต่ละวันแต่ละคืนรอคิวยาวเหยียดเป็น 10 กม.เพื่อเข้ารับ-ส่งตู้สินค้าตามท่าเทียบเรือต่างๆเพื่อขนส่งต่อไปยังที่หมายทั้งใกล้-ไกลทั่วไทย บนชีวิต-อาชีพที่ไม่ต่างอะไรกับ“ผู้ปิดทองหลังพระ”ฟันเฟืองสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาทุคยุคสมัย ก่อเกิดมิตรสหาย-สายสัมพันธ์คนพันธุ์อาชีพ-หัวอกเดียวกัน ณ แดนแห่งนี้
แดนที่เสมือนมีปัญหาบางสิ่งบางอย่างที่ลึกลับ สลับซับซ้อน หมักหมม แอบแฝงให้น่าสงสัยอยู่มากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจรติดชนิดวินาศสันตะโร-มลภาวะทางอากาศและเสียง-การบริหารจัดการที่ขึ้นชื่อเรื่องเต่าล้านปี ณ แดนแห่งนี้มันช่างชวนให้น่าพิศวงสงสัยยิ่งนักว่า
อีกกี่ปีกี่ชาติไอ้ปัญหาที่หมักหมมอยู่ ณ แดนสนธยาแห่งนี้จะถูกสะสางให้สิ้นซากให้หายพิศวงสงสัยซะที????ก็ได้แต่คาดหวัง-หาวเรอรอกับเมกะโปรเจ็กต์แหลมฉบังเฟส3เป็นแสงสว่าง ณ ปลายอุโมงค์เด้อครับพี่น้อง!
ดังฉะนั้น เมืองหลวงที่ใครต่อใครมองว่ามันคือดินแดน“สวรรค์”ที่ใครๆก็ล้วนอยากเข้าระเริงรมย์ ณ นิวาศสถานแห่งนี้ ทว่า ในมุมกลับกันอาจเป็น“นรก” ชัดๆของใครๆหลายๆคน ก็…เป็น…ไป…ได้!
ปล.ใครไม่เคยมาเยือน ณ แดนแห่งนี้และเมื่อได้มาเยือนแล้วรับรองได้…ระเบิดเถิดเทิงแน่นอน!อัครความบันเทิง-หรรษารอท่านอยู่!