สหไทย เทอร์มินอล (PORT) หนึ่งในผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจรเผยผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 6.59 ล้านบาท ย้ำยังเชื่อมั่นปีนี้รายได้โต 15%
คุณเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวว่า “สำหรับ ไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทฯมีรายได้รวม 325.16 ล้านบาท ลดลง 4.50% จากรายได้รวม 340.49 ล้านบาท เทียบกับปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 68.20 ล้านบาท ลดลง 15.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 6.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.12 % จากกำไรสุทธิ 6.21ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2562 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ตลอดจนปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 ส่งผลกระทบต่อรายได้ในกิจกรรมการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ และกิจกรรมการให้บริการซ่อมและล้างตู้คอนเทนเนอร์”
คุณบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวเสริมว่า “ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ถือเป็นสถานการณ์ที่กดดันต่อธุรกิจของบริษัทอย่างมาก ทางทีมบริหารได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อจะลดผลกระทบ และยังเชื่อมั่นว่าในอีก 3 ไตรมาสของปีนี้ ผลประกอบการของบริษัทจะมีแนวโน้มดีขึ้น และในปี 2564 นี้ รายได้ของบริษัทจะเติบโตได้ 15 %”
และยังกล่าวต่อไปว่า “สำหรับภาวะตู้สินค้าขาดแคลนเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง พร้อมมุ่งเน้นการเติบโตในบริการทุกด้าน โดยในปลายไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯประสบความสำเร็จในการขอใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป (Bonded Warehouse) และมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการคลังสินค้าในรูปแบบห้องเย็น ในเขตพื้นที่รับอนุญาตดังกล่าวตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการแข่งขัน โดยยังคงเชื่อว่าสถานที่ตั้ง และการให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริงยังเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัท”
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเดินหน้าโครงการใหม่ทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2564 โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย และโครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ผ่าน บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal) ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 โครงการทั้ง 2 ต้องชะลอการเปิดดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของไวรัสฯ หากโครงการทั้ง 2 ได้เริ่มเปิดดำเนินการ บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจอีกด้วย
บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบ วงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการตั้งแต่ 1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) 2.ธุรกิจการให้บริการขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง 3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4.ธุรกิจการให้บริการ เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น