ธนะดี กรุ๊ป ทุ่ม 170 ล้านสยายปีกธุรกิจ 2 ตัวแทนจำหน่ายใหญ่ยูดี ทรัคส์คลุม 4 จังหวัดภาคเหนือ “พิษณุโลก- เชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน”ปักหมุดสาขาแรกที่พิษณุโลกเปิดบริการแล้วเมื่อ 19 เม.ย.64 พร้อมมอบส่วนลดพิเศษอะไหล่แท้ 30% ฉลองเปิดศูนย์ฯ ส่วนสาขา 2 ที่เชียงใหม่คาดก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์กลางปีหน้า มั่นใจคุณภาพยูดี ทรัคส์ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการขนส่ง ลั่นธุรกิจขนส่งยังมีอนาคตแม้เผชิญวิกฤติโควิด-19
นางสาวอัยยริน มั่นคง กรรมการผู้จัดการ ธนะดี กรุ๊ป เปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่แล้วทางกลุ่มฯได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขาย ยูดี ทรัคส์ในจังหวัดพิษณุโลกภายใต้ บริษัท ธนะดี ออโต้ ทรัค แอนด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด โดยได้เร่งก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการที่มี 5 ช่องซ่อมให้บริการซ่อมบำรุงทั้งรถบรรทุกยูดี และวอลโว่ รวมทั้งหางหรือบอดี้ตัวถัง โดยได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมมอบส่วนลดพิเศษอะไหล่แท้ 30% เป็นการฉลองเปิดศูนย์ฯต้อนรับลูกค้า
“อีกทั้งกลุ่มฯได้เจรจาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขาย ยูดี ทรัคส์ เพิ่มเติมในเขตภาคเหนือตอนบนที่จังหวัดเชียงใหม่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูนและแม่ฮ่องสอนภายใต้การดำเนินการของบริษัท ธนะดี มอเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งใหม่ล่าสุดของกลุ่มฯ”
ทุ่มทุน 170 ล้านบาทสร้าง 2 ดีลเลอร์
นางสาวอัยยริน กล่าวอีกว่ารวมมูลค่าการลงทุนจากการก่อสร้างโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการทั้ง 2 แห่งรวมทั้งสิ้น 170 ล้านบาท แบ่งเป็น 120 ล้านบาทในจังหวัดพิษณุโลกบนพื้นที่ 12 ไร่ และอีก 50 ล้านบาทในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่บนพื้นที่ 12 ไร่เช่นกัน โดยศูนย์บริการที่จังหวัดเชียงใหม่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเร็ว ๆ นี้ และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์กลางปีหน้า
“ที่จังหวัดเชียงใหม่เราลงทุนน้อยกว่าเพราะเราไม่ได้รวมมูลค่าที่ดินในงบประมาณการลงทุน อีกทั้งจำนวนช่องซ่อมเราเริ่มต้นที่ 3 ช่อง ซึ่งน้อยกว่าที่พิษณุโลกที่เรามี 5 ช่อง แต่สำหรับการขายนั้น เราได้เริ่มต้นการขายตั้งแต่ปีที่แล้วที่พิษณุโลก และที่เชียงใหม่ เราพร้อมเดินหน้าขายได้ทันที ส่วนการให้บริการหลังการขายในเขตภาคเหนือตอนบนระยะแรกจะให้บริการในลักษณะ Mobile Service ซึ่งเป็นการให้บริการถึงพื้นที่ของลูกค้า”
เชื่อมั่นไปได้สวยแม้เผชิญวิกฤติโควิด-19
นางสาวอัยยริน กล่าวย้ำว่าธนะดี กรุ๊ป ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท BRK ที่มีฐานธุรกิจด้านการค้าน้ำมันอิสระ และงานขนส่งมามากกว่า 20 ปี โดยล่าสุดได้ขยายธุรกิจการขาย ยูดี ทรัคส์ ทั้งนี้เพราะเป็นการขยายฐานธุรกิจที่ต่อเนื่องจากการค้าน้ำมันและทางกลุ่มฯ มีความเชื่อมั่นธุรกิจโลจิสติกส์จะเจริญเติบโตได้ในอนาคต
“บทพิสูจน์ที่เราเห็นได้คือในช่วงวิกฤติโควิด19 ธุรกิจขนส่งยังคงเดินหน้าให้บริการขนส่งอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ในขณะที่ธุรกิจอื่นมากมาย ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้ และที่สำคัญภายใต้แนวคิด New Normal ธุรกิจขนส่งถือเป็นส่วนสำคัญต่อแนวทางการดำรงชีวิตยุคใหม่ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่สังคมออนไลน์มากขึ้น เราจึงเชื่อมั่นว่าธุรกิจรถบรรทุกจะยังมีอนาคตอีกยาวไกล”
เป้าหมายปีแรกที่ 60 คัน
นางสาวอัยยริน ระบุเหตุผลที่ทางกลุ่มฯได้ให้ความสนใจพื้นที่ภาคเหนือตอนบนว่าก็เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นเส้นทางขนส่งทางถนนที่สำคัญและที่มีพื้นที่เป็นเขตติดต่อชายแดน อีกทั้งการรุกไปทางภาคเหนือตอนบน จะทำให้ทางกลุ่มมีเครือข่ายครอบคลุมการขายและบริการทั้งภาคเหนือ โดยภาคเหนือตอนล่างจะมีศูนย์กลางที่จังหวัดพิษณุโลก โดยตั้งเป้ายอดขายในปีแรกที่ 60 คัน
“คำถามที่ว่าทำไมเราถึงเลือกขายยูดี ทรัคส์ เรามั่นใจในคุณภาพของยูดี ทรัคส์ ที่เป็นเทคโนโลยีผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตก โดยเทคโนโลยีญี่ปุ่นที่ยูดี ทรัคส์ มีเป็นพื้นฐานที่สำคัญ จึงทำให้ยูดี ทรัคส์ เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รถที่อัดเต็มด้วยเทคโนโลยีในต้นทุนการเดินรถที่ต่ำกว่ารถบรรทุกในท้องตลาด ในขณะที่พนักงานขับรถ ต่างมีความชื่นชอบในการขับยูดี ทรัคส์ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพรียบพร้อม รวมไปถึงเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้พวกเขามั่นใจในการขับรถขนาดใหญ่บนท้องถนนว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในชีวิตขับรถ”
เจาะกลุ่มก่อสร้าง-ปิโตรฯ-พืชฯ-ทั่วไป
อย่างไรก็ดี นางสาวอัยยริน ยังได้สรุปปิดท้ายถึกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าธนะดี กรุ๊ป จะรุกตลาดกลุ่มก่อสร้าง การขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม กลุ่มขนส่งทั่วไปและกลุ่มขนส่งพืชผลทางการเกษตร ซึ่งยูดี ทรัคส์ มีรถบรรทุกทุกประเภทที่จะรองรับกับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้
“ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เรามียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสามารถปิดการขายได้ภายหลังจากที่ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับรถของเรา เราจึงมั่นใจว่าเรามีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าภายใต้ทีมงานที่มีความพร้อม และหากสาขาภาคเหนือตอนบนที่เชียงใหม่ของเราเปิดอย่างเป็นทางการ เราจะยิ่งมั่นใจว่าเราจะสามารถทำยอดขายได้ดีขึ้นแน่นอนเพราะเราจะแยกการบริหารงานอย่างอิสระทั้งสองสาขาภายใต้การคุมงานของทีมผู้บริหารชุดเดียวกัน”