BEST Express ขึ้นแท่นธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุยอดนิยมระดับประเทศ

0
646

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย มีนักลงทุนสนใจอยากซื้อแฟรนไชส์เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีที่ผ่านมา (2563) แฟรนไชส์ประเภทธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนเอกชน เจ้าใหญ่ในตลาดอย่าง BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ผู้ให้บริการ รับ-ส่ง พัสดุด่วนทั่วไทย ได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่มองหาแหล่งรายได้ใหม่และโอกาสทำธุรกิจที่เติบโตเร็ว

ส่งอานิสงส์ให้ขยายสาขาได้มากกว่า 800 สาขาทั่วประเทศ เนื่องจากเทรนด์กระแสพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ออนไลน์และมีกิจกรรมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งช่องทางอีคอมเมิร์ซกลายเป็นช่องทางที่มีอัตราเติบโตอย่างมหาศาล เฉลี่ย 26-27% ต่อปี และมีมูลค่าเม็ดเงินกว่า 66,000 ล้านบาท จึงส่งแรงผลักดันสร้างโอกาสต่อธุรกิจขนส่งพัสดุพุ่งทะลุมากกว่า 35% ต่อปี

สำหรับแฟรนไชส์ที่มาแรงและมีโอกาสโตในปี พ.ศ. 2564 นี้ จะต้องตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ในเรื่อง ความสะดวก เข้าถึงง่าย ลดการสัมผัส มีความสะอาดสุขอนามัย ใช้งานด้วยระบบดิจิทัลเทคโนโลยีได้ดี และคุ้มค่าการลงทุน ซึ่งได้แก่ ‘แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสะดวกซัก’ ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในทำเลใหม่ ๆ แม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบนี้ ‘แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสะดวกส่ง’ ประเภทบริการรับส่งสินค้า บริการแพ็ค และเก็บสินค้า หรือพื้นที่ให้เช่าเก็บสินค้า ‘แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสะดวกทาน’ ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหารไทยตามสั่ง ขนาดพื้นที่ประมาณ 40-50 ตรม. เปิดร้านนอกห้าง และมีบริการ Food Delivery เป็นต้น

แนวทางปรับตัวให้อยู่รอดในตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นนี้ อีไอซี หรือ Economic Intelligence Center (EIC) หน่วยงานภายใต้ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้แนะ 3 แนวทาง สำหรับปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอด คือ 1. การเป็นพันธมิตรกับ Online platform ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งพัสดุ 2. การสร้างความแตกต่างโดยเน้นให้บริการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และยกระดับการบริการเพื่อสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ของตัวเอง 3.การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด้วยกันเอง ทั้งรูปแบบของการเป็นเครือข่ายธุรกิจและการร่วมทุนกับบริษัทขนส่งต่างชาติที่ต้องการเปิดตลาดในไทย เช่น BEST Express ที่ใช้โมเดลการขยายธุรกิจแบบเฟรนไชส์ (franchise) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจ “Global to Local (ไม่มีใครรู้จักการทำธุรกิจไปได้ดีไปกว่าคนในท้องถิ่น)” ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แฟรนไชส์ BEST Express มีเทคนิคง่ายๆ ในการบริหารจัดการและทักษะการทำธุรกิจจนเกิดเป็นกำไรภายใน 6 เดือนแรกอย่างไร

คุณดุษณี  เกษเกษา (คุณนิด) กรรมการบริหาร แฟรนไชส์ BEST Express ศูนย์บริการสาขาสุรินทร์ 1 กล่าวว่า “จากที่ได้เปิดแฟรนไชส์ BEST Express มาปีแรก เราประสบความสำเร็จมากด้วยความที่เข้ามาในช่วงจังหวะที่ดีมากของสถานการณ์โควิด ซึ่งเราสามารถคืนทุนได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรกจากการทำธุรกิจแฟรนไชส์ รวมถึงในแต่ละเดือนเรามีกำไร 6 หลักขึ้นไปอยู่แล้ว ซึ่งถามว่าเทคนิคในการบริหารคืออะไร เรามองวิกฤตเป็นโอกาสมากกว่า แต่พอมีเรื่องของโควิดเข้ามา เราใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ ทำการโปรโมทเรื่องของ Marketing เราคัดและสรรหาบุคลากรได้ในต้นทุนที่ต่ำลง เรามีสิทธิ์เลือกพนักงานที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมงานกับเราในต้นทุนที่ค่อนข้างดี เลยทำให้เราสามารถบริหารแล้วมีกำไรเกิดขึ้นในอัตราที่เติบโตค่อนข้างดีมากในช่วงภาวะแบบนี้ ซึ่งหลายคนจะมองว่าสภาวะแบบนี้ไม่น่าลงทุนเลยน่าจะชะลอการลงทุนไว้เก็บเงินสดไว้ดีกว่าแต่ที่จริงไม่ใช่พอเรามาลงทุนในธุรกิจที่ดีไม่ว่าจะภาวะเศรษฐกิจแบบไหนก็สามารถทำให้เรามีกำไรได้เหมือนกัน อย่างที่ BEST Express สาขาสุรินทร์ 1 เมื่อปีที่ผ่านมาเรากล้าการันตีว่าเราได้กำไร 7 หลักขึ้นไปใน 6 เดือนแรก ซึ่งถือว่าผลตอบรับค่อนข้างดีทั้งในตัวของลูกค้าเองและอัตราการเติบโตของกำไรด้วย”

ลงทุนเป็นแฟรนไชส์หลักกับ BEST Express ที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า

1. ลงทุนเป็นแฟรนไชส์หลัก (First station) จะได้รับเปอร์เซ็นต์ทั้งขารับและขาส่ง: เพราะไม่ว่าจะอยู่ฝั่งรับพัสดุ หรือจัดส่งพัสดุ BEST Express ก็ให้เปอร์เซ็นต์ทั้งสองทาง ต่างจากที่อื่นที่ให้แค่ฝั่งรับพัสดุอย่างเดียว

2. BEST Express ให้กรรมสิทธิ์การขายแฟรนไชส์ในพื้นที่ที่ดูแล: หากมีผู้สนใจต้องการเปิด Shop (หน้าร้าน) หรือ Drop Point (จุดรับพัสดุ) ในพื้นที่ที่แฟรนไชส์หลักดูแลอยู่

3. ตัวแทน BEST Express เติบโตในระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี: โดยระยะเวลาการเติบโตขึ้นอยู่กับทักษะหลายด้าน คือ ประสบการณ์บริหารงานและการจัดการ การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ การเอาตัวรอดทันต่อกระแสตลาดอีคอมเมิร์ซ และการทุ่มเทให้เวลากับธุรกิจ

4. เครือข่ายนักลงทุน พร้อมพัฒนาธุรกิจ: โอกาสร่วมงานกับเครือข่ายนักลงทุน ช่วยพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ครอบคลุมทั้งไทย จีน และประเทศอื่น ๆ ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)

5. สนับสนุนด้านการฝึกอบรมธุรกิจ: หากมีโอกาสได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับ BEST Express แฟรนไชส์ เราให้การช่วยเหลือและสนับสนุนด้านการฝึกอบรมเกี่ยวกับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

BEST Express แบรนด์ธุรกิจขนส่งพัสดุดังในระดับประเทศ ติดอันดับ 1 ใน 5 แถวหน้าขนส่งพัสดุชั้นนำ แถมมีซุปตาร์ตัวพ่อของวงการบันเทิงชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมกับมาสคอต (Mascot) “น้องกวางเบสท์“ หรือ Dear (De ตี้ – Ar เอ๋อ) ซึ่งเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของแบรนด์คู่กับพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเสริมจุดแข็งสร้างความแกร่งให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์มากขึ้น นอกจากการมีพรีเซ็นเตอร์ระดับประเทศแล้ว BEST Express ยังมีแฟรนไชส์ท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ที่มากด้วยประสบการณ์และศักยภาพด้านการบริหารจัดการและการตลาดด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ฉะนั้นจึงการันตีได้ว่าเราประสบความสำเร็จในธุรกิจแฟรนส์ขนส่งพัสดุแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันเรามีปริมาณพัสดุเติบโตจากปี 2563 กว่า 380% และนอกจากนี้เรายังถูกจัดให้อยู่ในแบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนเอกชน เจ้าแรก ที่มีบริการเข้ารับพัสดุ ฟรี ถึงหน้าบ้าน ไม่มีขั้นต่ำ รวมถึงมีบริการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติผ่าน Line Official Account : @BESTExpressTH

สำหรับผู้สนใจลงทุนเข้าร่วมเป็น Partner (พาร์ทเนอร์) เปิดแฟรนไชส์หลักกับ BEST Express สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account โดยค้นหาคำว่า @BESTFSCENTER หรือคลิกลิงก์ที่นี่ https://lin.ee/jj3oCAb