“มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” ชงลดกักตัว 14 วันนักท่องเที่ยว STV

0
622
มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

สถานการณ์โควิดทั่วโลกจะเริ่มเบาบ้าง  หลังจากหลายประเทศได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม   แต่ภารกิจกู้วิกฤติโควิดของไทยยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม    โดยสาธารณสุขประกาศผ่านศูนย์ ศบค. ย้ำแทบทุกวัน  ทุกคน “ยกการ์ดสูงๆ  การ์ดห้ามตกเด็ดขาด” เรายังวางใจไม่ได้ 

ขณะที่ซีกรัฐบาลใช้มาตรการเยียวยาขนาดใหญ่หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ      โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม    รัฐบาลกำหนดแผนดำเนินงานภายใต้ศูนย์รวมรัฐ – เอกชน ช่วยไทยกอบกู้เศรษฐกิจ 

อย่างไรก็ตาม  ธุรกิจโรงแรมไทยได้รับผลกระทบรุนแรงเป็นประวัติศาสตร์    ธุรกิจโรงแรมต่างปรับตัวสู้กับมรสุมโควิด   จากรอบแรกสู่โควิดรอบใหม่ที่มีดีกรีความแรงมากกว่า  บางรายจำเป็นต้องปิดกิจการถาวร  ล่าสุดถึงวันนี้  ธุรกิจโรงแรมไทยมีการปรับตัว  เพื่อฝ่าวิกฤติครั้งนี้ กับมาตรการ รัฐ – เอกชน ร่วมกอบกู้เศรษฐกิจตรงตามเป้าหมายอย่างไรบ้าง 

มาริสา  สุโกศล  หนุนภักดี  นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association: THA)  เปิดเผยกับวิทยุ รายการ “จุดประกาย ขยายประเด็น ” คลื่น FM. 92.5 MHz. ถึงผลกระทบและแนวทางกู้วิกฤติโควิดว่า   ผู้ประกอบการธุรกิจประสบปัญหาวิกฤติโควิดหนักที่สุด   หากย้อนจากวิกฤติตุ้มย่ำกุ้งในปี 40   รวมทั้ง เหตุการณ์น้ำท่วมปี 54  เหตุการณ์ปิดสนามบิน  ครั้งนั้นกระทบช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น  แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่า  “หนักที่สุด”

“เราไม่มีลูกค้าใช้บริการโรงแรมเลย เราได้รับกระทบที่รุนแรงที่สุด ทั้งกิจการโรงแรม นักลงทุน และพนักงาน  ซึ่งได้รับกระทบมากที่สุด พนักงานประมาณ แสนคนกลายเป็นคนตกงานทันที”     

สถานการณ์ปีนี้จะหนักกว่าปี 63 ที่ผ่านมา  ในช่วงต้นปี 64 เรายังมีนักท่องเที่ยวอัตราการเข้าพักอยู่ราว 50% แต่ตอนนี้เหลือ 0   ดังนั้น ย่อมหนักกว่าแน่นอน   การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โรงแรมหลายแห่งมีการประมาณว่าการท่องเที่ยวอาจจะกลับมาในช่วงเมษายน  ซึ่งเป็นช่วงสงกรานต์ โดยตอนนี้นั้นการท่องเที่ยวเริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จากข่าวของวัคซีนที่จะเริ่มมีการฉีดให้กับคนไทยแล้ว

ฝ่าวิกฤติลดต้นทุน พยุงการจ้างงาน

มาริสา กล่าวว่า  อุตสาหกรรมโรงแรมยังต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่อีกมาก สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้   คือการพยุงการจ้างงาน ซึ่งอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยอุดหนุน 50% ของฐานเงินเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้ธุรกิจโรงแรมยังสามารถรักษาพนักงานเอาไว้

“ดังนั้น จึงเป็นอะไรที่ยากลำบากที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ  และบางรายเจ้าของโรงแรม 5 ดาว จำเป็นต้องปิดตัวชั่วคราวอีกครั้ง  บางโรงแรมประกาศปิดกิจการถาวร    ซึ่งสะเทือนถึงพนักงานโรงแรมต้องตกงานน่าห่วงเห็นในพนักงานหลายแสนคน  พนักงานต้องหายไปประมาณครึ่งหนึ่งของภาคธุรกิจโรงแรม     เมื่อธุรกิจท่องเที่ยวประสบปัญหาปิดกิจการส่งผลกระทบรายได้ประเทศที่มีอัตราขยายเศรษฐกิจประมาณ 20%  ของGDP 

“สิ่งที่จะช่วยได้ในช่วงนี้  เพื่อฝ่าวิกฤติคือ การลดต้นทุน  และต้นทุนการจ้างพนักงานเป็นต้นทุนใหญ่ที่สุด  ที่ผ่านมา  เราก็ร้องขอให้ภาครัฐช่วยเหลือจ่ายเงินเดือนพนักงาน 50%  เงินเดือน 15,000 บาทรัฐก็จ่าย 7,500 บาท  โดยมีเงื่อนไขรักษาสถานภาพการจ้างงานพนักงานต่อไป   สิ่งที่เราต้องการอยากให้รัฐช่วยสัก 2- 3 เดือน  ที่ผ่านมา  รัฐบาลพยายามยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว   ด้วยโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นโครงการที่ดี เพราะช่วยกระตุ้นคนไทยให้เดินทาง”

แนะปรับ Soft loan –  ชงลดกักตัว 14 วัน

ส่วนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ Soft loan ของรัฐบาลจะเน้นไปช่วยกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีประเภทอื่น ขณะที่ภาคท่องเที่ยวนั้น  รัฐมองเห็นความเดือดร้อน  แต่โครงการนี้เราเอาเข้าจริงเราไม่อาจจะเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้  หากต้องการให้ผู้ประกอบการเงินทุนในโรงแรมก็อยากให้ปรับแก้เงื่อนไขบ้างประการ เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างแท้จริงตามวัตถุประสงค์ของภาครัฐ    ประเด็นถัดมาค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟอยากให้ลดลง  รัฐก็ได้ทำการมาตรการนี้ให้แล้ว ซึ่งขอชื่นชมที่เห็นความเดือนร้อนในช่วงวิกฤติโควิด       

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ดีประเทศกำลังจะมีวัคซีนที่สั่งซื้อจำนวนหลายล้านโดน  โดยจะทยอยเข้าถึงประเทศไทยเดือนกุมภาพันธ์นี้    เพื่อฉีดป้องกันไวรัสโควิดให้คนไทยตามลำดับกลุ่มเสี่ยง   ในฐานะนายกสมาคมโรงแรมฯขอชื่นชมรัฐมนตรีว่าการกรเทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกุล  ที่บอกว่า เราต้องฉีดให้บุคลากรโรงแรมเป็นลำดับต้นๆ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก    

“ในส่วนการฟื้นฟูธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมในฐานะนายกสมาคมอยากเสนอว่า ควรลดระยะเวลาการกักตัว 14  วัน สำหรับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจที่ใช้วีซ่าพิเศษหรือวีซ่า STV ที่เดินทางเข้าไทย  เพื่อเพิ่มความสะดวกมากกว่าเดิม  และจะเสนอเรื่องนี้ต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวให้ได้ผลมากที่สุด  ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ”