ไปรษณีย์ไทย มุ่งพัฒนาบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศเพื่อผู้ใช้บริการทุกคนแม้เผชิญผลกระทบโควิด ยังเปิดบริการทางอากาศ-ภาคพื้นรวม 59 ปลายทาง บริการโลจิสโพสต์ระหว่างประเทศ 31 ปลายทาง และอีก 107 ปลายทางบริการคูเรียร์โพสต์ แนะผู้ใช้บริการตรวจสอบประเทศปลายทางและบริการที่เปิดให้บริการได้ที่ www.Thailandpost.co.th
นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ไปรษณีย์ในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่งและสื่อสารของไทย นอกจากจะให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ที่มีกว่า 20,000 คน ครอบคลุมทุกพื้นที่ของไทยแม้จะอยู่ในช่วงของการระบาด COVID-19 ยังเดินหน้าให้บริการระหว่างประเทศ สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่จะทำให้ทุกภาคส่วนต้องเข้มงวดด้านมาตรการสุขอนามัยมากขึ้น ซึ่งการคมนาคมทางอากาศ เช่น สายการบิน ก็มีการลดเที่ยวบิน ทำให้กระทบต่อกิจกรรมการขนส่งสิ่งของบางส่วนไปยังปลายทางต่างประเทศด้วย โดยเปิดบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศทางอากาศและทางภาคพื้นรวม 59 ปลายทาง บริการโลจิสโพสต์ระหว่างประเทศ (ส่งของชิ้นใหญ่น้ำหนักเกิน 20 กิโลกกรัม) 31 ปลายทาง และอีก 107 ปลายทางที่ให้บริการคูเรียร์โพสต์ ซึ่งเป็นการฝากส่งสินค้าไปกับพันธมิตรเอกชน ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบประเทศปลายทางและบริการที่เปิดให้บริการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ www.Thailandpost.co.th
นายกาหลง กล่าวเพิ่มเติมถึงการดำเนินงานไปรษณีย์ระหว่างประเทศว่า ตามปกติแล้วบริการไปรษณีย์ทางภาคพื้นจะมีการจัดการขนส่งผ่านการแลกเปลี่ยนถุงไปรษณีย์ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม โดยการขนส่งทางบกด้วยรถของศูนย์ไปรษณีย์ที่ประจำในแต่ละภูมิภาค แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID – 19 ในปัจจุบันทำให้ไม่สามารถทำการแลกเปลี่ยนถุงไปรษณีย์ฯ ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการขนส่งไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยังคงมีการให้บริการตามปกติ ซึ่งทั้งสองชายแดนอนุญาตให้รถขนส่งถุงเข้า – ออก ณ ด่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาวด่านที่ 1 ได้ แต่ยังคงปฏิบัติงานภายใต้มาตรการความปลอดภัย และมีการตรวจสอบในทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวด
ในปี พ.ศ.2564 คาดว่าธุรกิจ e- Commerce และการขนส่งจะเติบโตยิ่งขึ้น ทั้งธุรกิจการจัดส่งสิ่งของภายในประเทศและระหว่างประเทศ ไปรษณีย์ไทยจึงยังคงตรึงมาตรฐานการให้บริการให้สม่ำเสมอและดำเนินมาตรการด้านความสะอาดปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ด้วยการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคไปรษณียภัณฑ์ขาเข้าระหว่างประเทศจากทุกต้นทางประเทศ ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิที่มีการคัดแยกสิ่งของฝากส่งระหว่างประเทศก่อนเข้าสู่กระบวนการส่งต่อไปรษณียภัณฑ์ให้ผู้รับต่อไป
