ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จขนถ่ายตู้สินค้าครบ 30 ล้านทีอียูหลังเปิดดำเนินงาน ณ ท่าเรือแหลมฉบังในปี 2545 อีกก้าวความสำเร็จครั้งสำคัญจากความพร้อมท่าเทียบเรือชุด D ระยะแรกเสร็จสมบูรณ์และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มรูปแบบ เป็นแรงส่งให้ฮัทชิสันสามารถรองรับเรือขนส่งตู้สินค้าขนาดใหญ่สุดระดับโลกที่มีอยู่ในปัจจุบัน
มร.สตีเฟ่น แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่าการบรรลุเป้าหมายในการขนถ่ายตู้สินค้าครบ 30 ล้านทีอียู นับเป็นข้อพิสูจน์ของการพัฒนาท่าเทียบเรือชุด D ที่เสร็จสมบูรณ์ในระยะแรก ที่ชี้ให้เห็นถึงขีดความสามารถในการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นและคุณภาพของบริการต่อลูกค้าและผู้ใช้บริการท่าเรืออื่นๆที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยนับตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการในประเทศไทยในปี 2545 เรามุ่งมั่นที่จะมอบการให้บริการที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพแก่ลูกค้าตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยสนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล การขนถ่ายตู้สินค้าครบ 30 ล้านทีอียูครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราที่มีต่อเป้าหมายนี้
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ขนถ่ายตู้สินค้าครบ 30 ล้านทีอียูอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 หลังจากได้ฉลองความสำเร็จในการขนถ่ายตู้สินค้าครบ 15 ล้านทีอียูในปี พ.ศ. 2558 การขนถ่ายตู้สินค้าครบ 20 ล้านทีอียูในปี พ.ศ. 2560 และทำการขนถ่ายตู้สินค้าครบ 25 ล้านทีอียู ในปี พ.ศ. 2562 ตามลำดับ
พร้อมกันนั้น ฮัทชิสัน พอร์ท ได้มุ่งมั่นในการพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อความยั่งยืน ผ่านโครงการริเริ่มด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฮัทชิสัน พอร์ท ปัจจุบันนวัตกรรมภายในท่าเทียบเรือชุด D ประกอบด้วย เครื่องมือปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าและปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง ทั้งหมดควบคุมด้วยเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล (Remote Control Technology) นอกจากนี้ ฮัทชิสัน พอร์ท ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งานรถบรรทุกตู้สินค้าไร้คนขับจำนวน 6 คัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
นอกจากนี้ ฮัทชิสัน พอร์ท กำลังดำเนินการพัฒนาโครงการท่าเทียบเรือชุด D ส่วนที่เหลือให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะรวมถึงการก่อสร้างลานวางตู้สินค้า ตลอดจนการเพิ่มจำนวนปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าและปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ ท่าเทียบเรือ ชุด D จะสามารถเพิ่มศักยภาพในการรองรับตู้สินค้าของท่าเรือแหลมฉบังได้ถึงราว 3.5 ล้านทีอียู (หน่วยนับตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต)
