“อดีตประมุขสิบล้อ”ซัด!ห้ามสิบล้อเข้ากรุงไล่ฝุ่นพิษ…”ซี้ซั้วต่า”

0
195

กลายเป็น Talk of the town กระแทกหัวอกคนขนส่ง-สิงห์รถบรรทุกไปเต็มเปากับมาตรการสกัดฝุ่น PM2.5ที่ผู้ว่าฯกทม.“อัศวิน ขวัญเมือง“เตรียมออกข้อบัญญัติควบคุมรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปห้ามเข้าพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน(วงแหวนรัชดาภิเษก)และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปห้ามเข้าพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอก(วงแหวนกาญจนาภิเษก)ตั้งแต่ 06.00-21.00 น.ดีเดย์ 1 ธ.ค.นี้-28 ก.พ.64 พุ่งขนเป้าหมายช่วยลด PM2.5ได้ถึง 27 %

เป็นแรงโน้มถ่วงเรียกแขก-เสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในแวดวงขนส่ง-รถบรรทุกรุมสวดยับ “รถบรรทุก”ไม่ใช่“ต้นเหตุ”ฝุ่นPM2.5 แต่เพียงผู้เดียว ซัดกลับทำไม?ไม่กล้าแตะ“รถเมล์ขสมก.-กระบะ”โอดสิบล้อ “แพะรับบาป” ย้ำชัดแก้ปัญหาปลายเหตุ-ล้อมคอกปัญหาพอไปที แถมซ้ำเติมต้นทุนขนส่ง-กระทบชิ่งระบบโลจิสติกส์-ห่วงโซ่อื่นๆปั่นป่วน เหน็บเจ็บแสบใคร?รับผิดชอบความเดือดร้อน-ปัญหา-ผลกระทบที่เกิดขึ้น

ประเด็นร้อนนี้อดีตประมุขสิบล้อ “ยู เจียรยืนยงพงศ์”อดีตประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กูรูในป่าดงสิบล้อเมืองไทย สะท้อนมุมมองนี้ได้อย่างเผ็อร้อนว่ามันคือแก้ปัญหาไม่ตรงจุด การห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้าวงแหวนรอบนอกกาญจาภิเษกนี่มันอลม่านปั่นป่วนไปหมดเลยนะ เพราะรถบรรทุกทั้งหมดจากใต้-เหนือ-ออก-ตกจะเคลื่อนเข้ากรุงหรือเชื่อมต่อไปแต่ละภูมิภาคมันก็ต้องผ่านตรงอยู่นี้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากมาห้ามเข้าทั้งปริมาณการจราจรที่แออัด-กองรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากที่รอวิ่งเข้ากรุงช่วง 3 ทุ่ม

เรื่องนี้ครั้งหนึ่งในที่ประชุมฯผมเคยสะท้อนปัญหา-ผลกระทบแล้วว่าวิธีคิดวิธีแก้ปัญหาแบบนี้มัน“แย่เอามากๆ”วันธรรมดามันก็ยังติดวินาศสันตะโรกันอยู่แล้ว และนี่ห้ามรถบรรทุกสินค้าวิ่งเข้าช่วงกลางวันคิดเอาเองล่ะกันช่วงรอวิ่งเข้าพื้นที่ชั้นในอะไรจะเกิดขึ้น แล้วตรงนี้กทม.-รัฐบาลรู้ปัญหาและผลกระทบหรือไม่?เคยส่งคนลงไปดูพื้นที่จริงหรือไม่?และเตรียมมาตรการไว้รองรับผลกระทบหรือยัง?หรือสักแต่ว่าห้ามๆอิท่าเดียว

ปัญหาการเกิดฝุ่น PM2.5 นี้น่ะสาเหตุหลักมันอยู่ที่การเผาในที่โล่ง ไม่ว่าจะเป็นป่าอ้อย-หญ้า-ตอข้าวฟางข้าว ยิ่งฤดูนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวประกอบกับอากาศหนาว คิดดูสิเผาแล้วยังไงมันพัดไหลเข้ากรุงอยู่ดี ไปแก้ตรงนั้นจริงๆจังๆดีมั้ย?ออกมาตรการมาเลยบังคับโรงงานน้ำตาล หากเป็นอ้อยที่เผาไม่รับซื้อเด็ดขาด ส่วนคนที่เผาก็ต้องเอาผิดทางกฎหมายอย่างจริงจัง แต่กลับมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุคือห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้ากรุงซึ่งมันไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา

“ไอ้ผลวิจัยสาเหตุฝุ่นพิษก็เหมือนกัน ปั๊ดโธ่…มัน…”ซี้ซั้วต่า”บิดเบี้ยวไปกันหมดแล้ว และนักวิชาการขายตัวในหน่วยงานต่างๆที่ไปหยิบยกตัวเลข-สถิติทั้งหลายแหล่มาประมวณน่ะ เขารู้ลึกรู้จริงแค่ไหน?ที่บอกว่ารถบรรทุกควันดำ-เป็นต้นตอฝุ่นพิษPM2.5 ถึง 28 % ในจำนวน 72.5 %จากภาคคมนาคมขนส่งน่ะ มันไม่ใช่แล้ว…นี่ไงผมถึงบอกว่าแก้ปัญหาได้แย่เอามากๆ”อดีตประมุขสิบล้อ ตบท้าย