ถนนการเมืองหน้าประวัติศาสตร์ไทยยังร้อนระอุพลางคลุกฝุ่นเข้าตารัฐบาลจากลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างทางการเมือง ลุกลามบานปลายกลายเป็น“วิกฤติความขัดแย้ง”ของผู้คนในสังคมอีกระลอก ตอกย้ำ&หลอนความรู้สึกคนไทยยังเวียนวนอยู่กับวงจรอุบาทว์ซ้ำซากไม่จบสิ้น ถึงวันนี้ไม่ใครรู้ว่า “ทางออกประเทศ”ที่ถูกใจทุกคนทุกฝ่ายอยู่วิมานชั้นใด?
ขณะที่บนถนนคนกรุงคนเผชิญปัญหารูทีนที่มาชอบมาจ๊ะเอ๋ทุกฤดูหนาวอย่างฝุ่นจิ๋วมหาภัย PM2.5 เมื่อวาน (15 พ.ย.63)มีหลายพื้นที่กทม.เกินค่ามาตรฐานไปแล้วหลังมันมาหลอนรูจมูกและระบบหายใจคนกรุงแล้วก็จากไปปีแล้วปีเล่าถึงวันนี้…ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า“การแก้ปัญหา”ที่ถูกจุดเกาถูกที่คันถูกใจทุกฝ่ายมันอยู่ชั้นบรรยากาศไหนเช่นเดียวกัน?
ส่วนมหกรรมล้อมคอกสกัดฝุ่น PM2.5 จากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนหน้าก็ฮือฮาสะเทือนสะท้านพี่น้องสิงห์รถบรรทุกไปแล้ว เมื่อท่านพ่อเมืองหลวงศิวิไลซ์“พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง”ผู้ว่าฯกทม.เตรียมออกคำสั่งห้ามรถบรรทุก 6 ล้อ ขึ้นไปวิ่งเข้าเขตกทม.ตั้งแต่เวลา 6.00-21.00 น.ให้วิ่งเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น เป็นเวลา 3 เดือนเริ่ม 1 ธ.ค.63-28 ก.พ.64 หวังพุ่งชนเป้าหมายมหกรรมล้อมคอกป้องกันปัญหารูทีนสกัดค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน
ทันทีที่ข่าวสารนี้ถูกตีแผ่ในโลกข่าวสารยุคโซเชียละครองเมืองมนุษย์ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง บ้างก็เห็นดีเห็นงามตามท้องเรื่อง บ้างก็ว่าไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะพลพรรคสิงห์รถบรรทุกที่มองว่าเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ล้อมคอกปัญหาพอแล้วๆพลางโยนบาปโยนแพะให้กับพี่น้องรถบรรทุกทั้งที่เนื้อในความเป็นจริง“ต้นตอ”ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถบรรทุกเท่านั้น
ไฉนเล่า?ถึงได้กรุณา“โยนขี้”ให้กับพี่น้องสิงห์รถบรรทุกอยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึง-เข้าใจถึงความเดือดร้อน-ปัญหา-ผลกระทบที่จะบังเกิดขึ้น ทั้งซ้ำเติมต้นทุนขนส่งเพิ่มบาน-กระทบชิ่งระบบโลจิสติกส์ป่วนบรรลัย!
ฟากฝั่งผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาพันธ์ฯ-สมาคมขนส่งฯทั้งหลายแหล่ ไม่เห็นด้วยพลางพากันตบเท้าค้านนโยบายสุดโต่งนี้อย่างแร๊งส์ พร้อมแสดงท่าทีตอบโต้ด้วยการขู่นัดหยุดวิ่งขนส่งสินค้าเบื้องต้น 3 วันให้มันรู้แล้วรู้รอดรู้ซึ้งถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับห่วงโซ่ธุรกิจอื่นๆอย่างไรหากพวกเขาสามัคคีหยุดวิ่ง 3 วัน พร้อมกับย้ำด้วยว่าอาจบิ๊กเซอร์ไพร์สยาวไปๆมากกว่านี้หากยังไม่มีแนวทางตามข้อเรียกร้อง
ล่าสุด (12 พ.ย.63)ฝั่งท่านผู้ว่าฯกทม.ยังเดินหน้าเรื่องนี้สุดลิ่มทิ่มประตู บอกว่าในวันที่ 17 พ.ย.นี้จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 1 ในแผนที่กทม.เตรียมนำมาใช้คือการจำกัดเวลาการเดินรถบรรทุกเกิน 6 ล้อที่ห้ามวิ่งเข้ากรุงฯช่วงเวลาเร่งด่วนตั้งแต่ 06.00 – 21.00 น.ที่จะบังคับใช้อย่างจริงจัง1 ธ.ค.นี้ จนถึงก.พ.64 โดยจะมีการทำหนังสือไปยังกรมการขนส่งทางบก และ กองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนในวันที่ 17. พ.ย.นี้
ท่านผู้ว่าฯอดีตมือปราบนามระบือ ย้ำว่าหากยังไม่มีการดำเนินการ ตนจะใช้อำนาจผู้ว่าฯกทม.ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย 2535 ต่อไป!พร้อมกับแง้มประโยคเด็ด ทว่าเมื่อสิงห์รถบรรทุกฟังแล้วต้องร้องซี๊ด&แซดในอารมณ์ความรู้สึกยิ่งนักแลว่า….
“แม้จะเข้าใจผู้ประกอบการขนส่งดี แต่ในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศในพื้นที่กรุงเทพฯมีมลพิษ ย่ำแย่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมาก จึงต้องออกข้อกำหนดให้รถใหญ่เปลี่ยนเวลาในการเดินทางเพื่อลดการสร้างมลภาวะและบรรเทาปัญหารถติด”
แว่วมาว่าห้วงเวลาไล่เลี่ยกันบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาพันธ์ฯ-สมาคมขนส่งฯ-สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและหอการค้าไทย ตบเท้าเข้าร่วมประชุมชี้แจงปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากห้ามรถบรรทุกเกิน 6 ล้อวิ่งเข้ากรุงเทพฯช่วงเวลากลางวันตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ที่อาคารสำนักการโยธา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ทว่า ผลการประชุมดูเหมือนจะไม่เป็นมรรคเป็นผล เพราะรองผอ.สำนักสิ่งแวดล้อมกทม.กลับบอกว่านโยบายการบังคับใช้ดังกล่าว ผู้ว่าฯกทม.เป็นเพียงผู้รับสนองมติของคณะกรรมการฯนำนโยบายมาเผยแพร่ มิได้มีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้ พร้อมกับโยนเผือกร้อนให้สหพันธ์ฯ-สมาคมขนส่งฯหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้โดยตรง
เอายังต่อไปล่ะครับคราวนี้ประธานสหพันธ์ฯ-นายกสมาคมขนส่งฯคงต้องหักพวงมาลัยตีโค้งวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด่วนๆมุ่งหน้าสู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติน่ะสิ…ถึงจะถูกที่ถูกคนถูกประเด็น!
แต่ทว่า หลังชำแหละคำกล่าวยืนยันของท่านรองผอ.สลล.แปลไทยเป็นไทยเข้าใจว่า “ผู้ว่าฯกทม.ไม่มีอำนาจหน้าที่บังคับใช้นโยบายดังกล่าว เป็นเพียงผู้มติ-นโยบายมาเผยแพร่เท่านั้น”…ปั๊ดโธ่เป็นซะอย่างนั้นไป!
ไอ้กระผมก็ยังงงเป็นไก่ตาแตกยกเล้าคือกัน แล้วทำไม๊ทำไม?ท่านผู้ว่าฯกทม.ถึงกล้าประโคมข่าวกันสุดลิ่มตามทุกช่องสื่อสารไปก่อนหน้านี้ แถมย้ำด้วยว่า“ขณะนี้ได้ทำหนังสือประสานไปยังกรมขนส่งฯ-กองบก.จร.ออกข้อบัญญัติควบคุมรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปห้ามเข้าพื้นที่กรุงเทพฯตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป:
และมันพีคตรงที่ว่า “หากยังไม่มีการดำเนินการ จะใช้อำนาจผู้ว่าฯกทม.ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย 2535 ต่อไป”…ที่ท่านผู้ว่าฯกทม.พรูพรั่งออกตรงนี้มันหมายความว่ายังไงครับ?มันดูย้อนแย้งกันไหมครับ?ท่านผู้ว่าฯกทม.-รองผอ.สลล.ที่เคารพ!
บางทีก็ปวดหัว บางทีก็ไม่ได้อะไรเลย!บางทีท่านผู้ว่าฯกทม.-รองผอ.สลล.ปรึกษากันบ้างก็ดีนะขอรับ!
…บทสรุปปมร้อนนี้จบอย่างไร?…ต้องตามติดตามต่อขอรับ!
:ปีศาจขนส่ง