เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในรอบ 9 เดือนของปีงบประมาณ 2563 (ตุลาคม 2562 – มิถุนายน 2563) โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
สรุปดังนี้
ทกท. เรือเทียบท่า 2,927 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.35% สินค้าผ่านท่า 16.212 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.06%ตู้สินค้าผ่านท่า 1.082 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 0.39%
ทลฉ. เรือเทียบท่า 7,646 เที่ยว ลดลง 6.24% สินค้าผ่านท่า 65.333 ล้านตัน ลดลง 3.94%ตู้สินค้าผ่านท่า 5.798 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 4.66 %
ทชส. เรือเทียบท่า 2,123 เที่ยว เพิ่มขึ้น 1.41% สินค้าผ่านท่า 138,851.64 ตัน ลดลง 24.29%ตู้สินค้าผ่านท่า 6,721.75 ตู้ เพิ่มขึ้น 29.81%
ทชข. เรือเทียบท่า 145 เที่ยว ลดลง 393.10% สินค้าผ่านท่า 1,858.48 ตัน ลดลง 2,269.03%
ทรน. เรือเทียบท่า 197 เที่ยว ลดลง 30.46% สินค้าผ่านท่า 78,805 ตัน ลดลง 40.74% ตู้สินค้าผ่านท่า 2,574 ตู้ ลดลง 21.33%
สืบเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน ประจำปีงบประมาณ 2563 กทท. มีเรือเทียบท่า 10,573 เที่ยว ลดลง 3.53% สินค้าผ่านท่า 81.545 ล้านตัน ลดลง 2.98% และตู้สินค้าผ่านท่า 6.880 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 4.01% รวมรายได้สะสม 9 เดือน 11,004 ล้านบาท ลดลง 2.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีแนวโน้มการทยอยการฟื้นตัวตามมาตรการผ่อนคลายการป้องกันและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในไทย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก
สำหรับการส่งออกสินค้าได้เริ่มฟื้นตัวมากขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ จากคาดการณ์ปริมาณการส่งออกในปี 2563 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2563) จะติดลบสูงสุด 12% ถึงต่ำสุด 10% ส่งผลต่อการคาดการณ์ปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าของ กทท. ในปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 9.203 ล้าน ที.อี.ยู.