ขสมก.ปรับแผนเดินรถเต็มสูบรองรับสถานการณ์หลังคลายล็อกระยะที่ 3 และเปิดเทอม คาดจะมีผู้โดยสารใช้บริการถึง 700,000 คนต่อวัน ชี้ต้องเพิ่มความถี่ปล่อยรถ5นาทีต่อคัน พร้อมเข้มมาตรการระยะห่าง1คันยืนได้ไม่เกิน10 คน
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ (รถเมล์) เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 30,000 คน หรือประมาณ 630,000 คนต่อวัน จากเดิมที่มีผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ 600,000 คนต่อวัน
“ขณะเดียวกันจำนวนรถ และเที่ยววิ่งได้เพิ่มขึ้น มีรถเมล์ให้บริการวันละ 2,911 คัน หรือมีการเดินรถอยู่ที่ 97% จากเดิมมีรถให้บริการอยู่ที่ 2,850 คันต่อวัน ส่วนจำนวนเที่ยววิ่งเพิ่มเป็น 23,255 เที่ยวต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ วันละ 22,000 เที่ยวต่อวัน”
นายสุระชัย กล่าวอีกว่า จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มนั้น เนื่องจากรัฐบาลได้ผ่อนปรนระยะที่ 3 ทำให้กิจกรรมบางอย่างเปิดกิจการได้ รวมทั้งขยับเวลาการห้ามออกนอกเคหะสถาน หรือเคอร์ฟิว จากเดิมเวลา 23.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. และให้ขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้า จากเดิมเวลา 10.00-20.00 น. เป็นเวลา 10.00-21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา
“ขสมก. คาดว่าอนาคตจะมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจนถึง 650,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ ขสมก. คาดการณ์ไว้ว่าหากรัฐบาลมีการปลดล็อกระยะที่ 3 และเปิดภาคการศึกษา ทำให้โรงเรียนเปิดเทอม นักเรียนและผู้โดยสารเดินทางมากขึ้น จึงเตรียมปรับแผนรองรับการเดินรถไว้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการถึง 700,000 คนต่อวัน และเพิ่มจำนวนรถเป็น 3,000 คันต่อวัน หรือเดินรถ 100%”
นายสุระชัย กล่าวย้ำด้วยว่ารวมทั้งในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเวลา 06.00-09.00 น. และ เร่งด่วนเย็น 17.00-20.00 น. ที่ผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นจะเพิ่มความถี่ในการเดินรถ 5-6 นาทีต่อคัน เพื่อสอดคล้องกับการเดินทาง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ ขสมก. อำนวยความสะดวกในจุดที่ผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร
นอกจากนี้ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการรถเมล์ การนั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด (รถเมล์ 1 คัน อนุญาตให้ผู้ใช้บริการยืนได้ไม่เกิน 10 คน) กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถเมล์คันถัดไป
