เรียกได้ว่าเป็นไอเดียกระฉูดแตกแลกคอมเม้นต์แรงๆรัวๆจากพลเมืองโซเชียลได้ดีนักแลสำหรับไอเดียการติดเครื่องฟอกอากาศรถเมล์ขสมก.หวังสกัดฝุ่น จากภูมิปัญญาท่านรัฐมนตรีศรีบุรีรัมย์คนโก้นาม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”เจ้ากระทรวงหูกวาง
ที่วันวานก็ไม่รู้นอนหลับนิมิตดี๊ดีรึไงถึงได้กล้าหล่นไอเดียสุดบรรเจิดเตรียมติดตั้งเครื่องฟอกอากาศบนหลังคารถเมล์ช่วยกรองอากาศบริสุทธิ์ลดปัญหาฝุ่นจิ๋วมหาภัย PM2.5 ประเดิมจากรถเมล์ขสมก387 คันใน 129 เส้นทางทั่วกรุง หากได้ผลดีจะขยายผลติดรถเมล์ร่วมขสมก.-รถตู้สาธารณะลากยาวไปถึง“รถบรรทุก” และขยายผลไปในพื้นที่ต่างจังหวัดต่อไปอีกด้วย
เจ้ากระทรวงหูกวางได้ร่ายรายละเอียดขณะนี้กรมขนส่งฯกำลังล้อมไอเดียบรรเจิดนี้กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) โดยจะเริ่มติดตั้งกับเมล์ขสมก. ภายในเดือน ก.พ.นี้ นำร่องเส้นทางละ 3 คันใน129 เส้นทางทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑลรวมแล้ว 387 คัน
เจ้าเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่นี้มันจะใช้หลักการเดียวกับเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน แต่ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟจะใช้การเคลื่อนที่ของรถเพื่อนำอากาศเข้ามาในท่อ และมีไส้กรองอากาศ คาดสัปดาห์หน้าจะเริ่มทดลองให้รถเมล์ ขสมก. ติดตั้งบนหลังคา เพื่อทดสอบค่าของอากาศว่าเครื่องดังกล่าวสามารถฟอกได้ตามทฤษฎีหรือไม่เพื่อเป็นต้นแบบที่จะใช้กับรถคันอื่นๆ ต่อไป
หากเมื่อทดลองแล้วได้ผลตามสมมุติฐานดังกล่าว ก็จะขยายผลจากรถเมล์ ขสมก.ไปยังรถบรรทุก และขยายผลไปในพื้นที่ต่างจังหวัดต่อไปด้วย ส่วนเรื่องราคาค่างวดที่สังคมเป็นห่วงนั้น “เสี่ยโอ๋-ศักดิ์สยาม” บอกราคาแต่ละเครื่องคงไม่แพงมากนักไส้กรองราคาอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ส่วนเรื่องการผลิตก็ไม่ห่วงว่าอะไร เพราะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมากมาย
แหม่ะ!พลันที่สุดยอดไอเดียนี้ถูกตีแผ่ในโลกข่าวสาร เรียกเสียงฮือฮาและแรงกระหน่ำวิพากษ์จากพลเมืองโซเชียลอย่างหนักหน่วง กว่า 90 %รวมกระทืบคอมเม้นต์ไม่เห็นด้วยกับไอเดียสุดบรรเจิดนี้ เพราะมองว่าเป็นนโยบายขายฝัน ได้ไม่คุ้มเสีย ผลาญภาษีประชาชนเปล่าๆปลี้ๆ แก้ปัญหาแบบขอไปที สู้จัดซื้อรถเมล์ใหม่-รถเมล์พลังงานไฟฟ้าไม่ดีกว่าหรือ? ฯลฯ
ยิ่งงามไส้เข้าไปอีกเมื่อถูก รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์นักวิชาการดังและอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.ออกมาวิจารณ์พร้อมตีแสกหน้าขสมก.ชนิดหมอไม่รับเย็บปมดราม่า“ติดตั้งเครื่องกรองอากาศ”บนหลังคารถเมล์ขสมก.ว่า”เป็นเรื่องลวงโลกเช่นเดียวกับเครื่อง GT 200 แเท่านั้นยังไม่พอยังหน้าแหกยับเยินหนักกว่าเดิมอีกเมื่อล่าสุด ถูกนักวิชาการอิสระชื่อดัง “ภัทร เหมสุข“โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pat Hemasuk “ผมสงสัยว่าองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขสมก.ไม่ปรึกษาวิศวกรที่ทำงานอยู่ในองค์กรเลยใช่ไหม ….ผมคงเอาปี๊บคลุมหัวถ้าผมต้องเป็นวิศวกรที่อยู่ในองค์กรที่ออกข่าวบ้องตื้นแบบนี้ออกมาสู่สาธารณะ”
วิจารณ์ยับเป็นข้อๆที่ขสมก.ยกเมฆอ้างตัวเลขสามารถกวาดอากาศเข้าเครื่องกรอง ได้ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อการวิ่งรถ 1 เที่ยว เมื่อรถโดยสารวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 20 กม./ชม.ระยะ 20 กม. หรือ 166.6 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการดูดลมเข้าเครื่องกรอง ….มันจึงเป็นไปไม่ได้ทางวิศวกรรม
แบบเด็กเรียนวิศวะเครื่องกลปี 2 แค่เหลือบตามองก็ส่ายหัว ไม่ต้องเอามาคำนวณให้เสียเวลาเสียด้วยซ้ำไป พร้อมกะซวกไส้แตกการที่ขสมก.บอกใช้ไส้กรองอากาศที่ใช้กับเครื่องยนต์หรือรถยนต์สองตัวมาติดเอาไว้ในกล่อง “แบบโง่ๆ”นักวิชาการอิสระชื่อดัง “ภัทร เหมสุข“ย้ำอีกทีว่า “แบบโง่ๆ”หละ …หวังว่านี่ก็ปี 2020 แล้ว ประชาชนคงไม่โดนหลอกกันง่ายๆอีกนะ”
ก็ไม่รู้เสี่ยโอ๋-ศักดิ์สยาม ไปได้สมุนไพรดีมาจากไหน ไอเดียสุดบรรเจิดถึงได้พลุกพล่านรายวัน หรือปมไอเดียบังคับติด GPS รถยนต์ส่วนบุคคลที่เล่นงานท่านจนใบ้รับประทานไม่สะกิดต่อมรับรู้ให้เกิดอาการแหยงๆบ้างหรือไง?
ขณะที่อธิบดีกรมขนส่งทางบก “เอ๋-จิรุตม์ วิศาลจิตร”เด็กในคาถาเจ้ากระทรวงหูกวาง ก็ออกโรงเด้งรับนโยบายขายฝันทันควัน บอกรัวๆสัปดาห์หน้าจะนำรถเมล์ขสมก.เป็นต้นแบบติดเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่ 3คันไปทดลองวิ่งเพื่อประเมินประสิทธิภาพการกรองอากาศ
ส่วนราคาเครื่องดังกล่าวใช้ต้นทุนตัวละ7,500บาทหากติดบนรถเมล์ ขสมก.3,000 คันจะใช้งบประมาณ 21-22 ล้านบาทโดยทุก 15วันต้องเปลี่ยนแผ่นไส้กรองอากาศแผ่นละ 300-500 บาท คาดจะช่วยกรองอากาศได้มากลดฝุ่นลดมลพิษบนท้องถนนได้ หากได้ผลดีจะขยายผลไปใช้กับรถร่วมบริการขสมก.และรถตู้โดยสายสารสาธารณะโดยจะขอความร่วมมือไม่ใช่บังคับ
ฟังมาซะดิบดีก็ดันมาติดใจกับข้อสงสัยแล้วใครจะเป็นเจ้าภาพค่าใช้จ่ายที่ทุ่มทุนลงไปกว่า 22 ล้านบาท ยังไม่เหมารวมถึงค่าการเปลี่ยนไส้กรองอากาศแผ่นละ 300-500 บาทที่ต้องเปลี่ยนทุก 15 วัน ลำพังทุกวันนี้หนี้ขสมก.ก็บานตะไทกว่าแสนล้านบาทแล้ว เข้าแผนฟื้นฟูรอบแล้วรอบเล่าก็ยัง…หลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี!
เพราะฟังจากท่านรมต.คมนาคม อธิบดีกรมขนส่งฯไล่ไปถึงผอ.ขสมก.ก็ยังไร้คำตอบใคร?จะเป็นเจ้าภาพพร้อมเปย์กับไอเดียสุดเก๋ครั้งนี้ ร่ายมาซะดิบดีก็ดันมาขยี้ตาตอนท้าย”ต้องหารือร่วมกันอีกครั้งว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย” มึนงงเป็นไก่ตาแตกยกเล้ามั้ยล่ะครับพี่น้อง?
ยังไม่เหมารวมถึงปมมันจะคุ้มค่ากับการทุ่มทุนหรือไม่? เพราะรถเมล์ขสมก.ก็ล้วนแต่เป็นรถเก๊าเก่า&เน๊าเน่าด้วยกันทั้งนั้น ไอ้เครื่องฟอกอากาศที่ว่ามันจะไหวมั้ยกับการดูด&กรองอากาศและช่วยลดฝุ่นพิษบนท้องถนนได้จริงหรือไม่?
คงไม่สืบให้ยาวไกลให้เสียเวลาว่าจะขยายผลไปติดรถเมล์ร่วม รถตู้โดยสายสาธารณะ และปิดท้ายกับพี่ใหญ่บนท้องถนนอย่าง “รถบรรทุก”ลองลุยไฟไอเดียสุดบรรเจิดนี้ให้เกิดมรรคเกิดผลตลอดรอฝั่งกับรถเมล์ขสมก.ก่อนเหอะครับท่าน!
ทุกวันนี้ประชาชนก็โคตรปวดกบาลกับไอเดียกระฉูดแตกรายวัน!ขยันแต่ขายฝัน…แต่ผลงานนับตั้งแต่นั่งแทนเก้าอี้รมต.คมนาคมมานี้ไหนล่ะ?…ผลงานพอเป็นเนื้อ-หนัง!