ตามแรงโน้มถ่วงโลกข่าวสารผู้คลุกคลีตีโมงแวดวงรถบรรทุกก็พอทราบได้ว่าแม้บจก.เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียลวีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) หรือ DCVTที่ถูกเบ่งคลอดจากมดลูกเดมเลอร์กรุ๊ปเพื่อเป็นบ้านหลังใหม่-ใหญ่รองรับลูกรักอย่างค่ายชบาแดง(ฟูโซ่)ในไทยหลังกระชากจากอกดิสทริบิวเตอร์รายเดิมไปตั้งแต่ปี 2016 (31 มี.ค.2016 วันสิ้นสุดสัญญา)
และเมื่อ 1 ก.ย.2562 ก็ถึงคราผลิใบผู้บริหารระดับสูงเป็นครั้งแรก โดยแต่งตั้ง“มร.สเตฟาโน จิออร์ดานิ”เป็น CEO คนใหม่แทนที่“มร.ซาช่า ริคาเน็ค”CEO คนแรกถูกโยกย้ายให้ไปหลบเลียแผลใจพลางโซ้ยปลาดิบจิ้มวาซาบิซี๊ดซ๊าดขึ้นสมองกับตำแหน่งใหม่ที่สนง.ใหญ่เดมเลอร์ทรัคส์ เอเชีย ในเมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่นไปตั้งแต่1 ก.ย.2562 เป็นต้นมาแล้วนั้น
หาก FC ปีศาจขนส่งทั้งแท้และเทียมไม่ถูกโรคอัลไซเมอร์ลักพาตัวไปเข้าป่าเข้าพงแล้วล่ะก็ ก็คงพอจำกันได้ถึง“บุคคลปริศนา”ที่ถูกอัญเชิญให้เริงระบำผ่านตัวอักษรจากการร่ายมนต์ของท่านปีศาจฯหลายครั้งหลายคราต่างกรรมต่างวาระของการกระแทกแป้นพิมพ์สื่อถึงค่ายชบาแดง ที่นอกเหนือจากมร.ซาช่า ตัวละครเอกที่อยู่หน้าฉากกับบทบาท CEO
ทว่ายังมีเงาตะคุ่มๆ“ผู้บริหารระดับสูงใครบางคน?”ที่หลงเหลืออยู่ว่ากันว่าเขาคือ CFO (Chief Financial Officer)ผู้บริหารสูงสุดด้านการบัญชีและการเงินของ DCVT ผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือ CEO บนฐานบัญชาการ DCVTที่ใครต่อใครต่างก็รู้ว่าเขาคือ“ผู้อยู่เบื้องหลัง”การทำตลาดรถใหญ่ฟูโซ่ “ไม่ประสบความสำเร็จ”ในไทยเท่าที่ควรจะเป็นสมฐานะความเป็นเจ้าพ่อยนตรกรรมโลกอย่างเดมเลอร์
หรือแปลให้ฟังและเข้าใจง่ายๆแบบสบายๆต่อมรับรู้ชาวบ้านแต่อาจไม่ถูกใจพระเดชพระคุณท่านหน่วยเหนือ DCVT ว่าแท้จริงแล้วบุคคลปริศนาว่าที่ CFO นี่แหล่ะ คือผู้อยู่เบื้องหลังแห่งการครอบงำ “ความล้มเหลว”การโม้แป้งค่ายชบาแดงในไทยตัวจริงเสียงจริง
แม้หน้าฉาก CEO อย่างมร.ซาช่า(ขออภัยที่ต้องเอ่ยนามหลายครั้ง)ที่เคยถูกทะลวงไส้แตกทะลักในวิสัยทัศน์ระดับ CEO มาก่อนหน้านี้ ทั้งในมิติภูมิรู้ที่ไม่ได้ถูกรีดเอามาใช้เป็นพลังงานแล้วก่อเกิดประโยชน์เป็นเนื้อ-หนังกับการเซิ้งการตลาดในไทยเท่าที่ควรจะเป็น อีกทั้ง“ศักยภาพและภาวะผู้นำ”ในฐาน CEO ยังนอนกอดอีโก้ตัวกูของกูจนสุดโต่ง
โดยไม่มีท่าที “สนใจ-เข้าใจ”ถึงรากเหง้าและธรรมชาติตลาดรถบรรทุกเมืองไทยประหนึ่งหลงระเริงในอีโก้ไม่ลืมหูลืมตา…เพราะข้ามันคือ “I’m Daimler, I’m Mercedes-Benz”ใครๆก็ต้องศิโรราบ!
ยังไม่รวมถึงกลิ่นเน่าๆจากพฤติกรรม-นิสัยส่วนตัวแต่กลับนำมาละเลงจน“มั่วตุ้ม”รุมกัดกร่อนอารมณ์ความรู้สึกคนในองค์กรให้เอือมระอา ซ้ำร้ายกลิ่นอันไม่พึงโสภายังเล็ดลอดผ่านช่องลมบานประตู-หน้าต่างโชยกลิ่นให้คนภายนอกได้รับรู้สัมผัสถึงกลิ่นตุๆทะลุไส้แตกจนได้
ด้วยความหวังสูงสุดสุดท้ายที่ปลายอุโมงค์ที่จะได้เห็นค่ายชบาแดงภายใต้ชายคาหลังใหม่-ใหญ่ DCVT ที่ต้นทุนที่สูงลิ่วเหตุเป็นบริษัทลูกเดมเลอร์ยักษ์ใหญ่ด้านยนตรกรรมโลก บวกกับพลังสติปัญญาCEO สายตรงจากเดมเลอร์เยอรมัน ผสมโรงกับฐานะทางการเงินเข้าขั้น“รวยอู้ฟู่”ของเดมเลอร์ อีกทั้งยังโรมรันพันตูกับ 9 ดีลเลอร์เกรด A ด้วยแล้ว
ใครต่อใครก็คาดการณ์ว่าค่ายชบาแดงน่าจะเฉิดฉาย&ไฉไลเป็นบ้าในป่าดงดิบรถใหญ่เมืองไทยเป็นแน่แท้!
ที่ไหนได้ผ่านไปเกือบ 3 ปีภายใต้ภูมิปัญญาของ CEO คนแรกของ DCVT กลับสวนทางกับความคาดหวังอย่างสิ้นเชิงทั้งในแง่ยอดขายที่หลุดเป้าออกทะเลไปไหนต่อไหน แนวทางการทำตลาดสัมผัสได้ยาก ความไร้เอกภาพของคนในองค์กร รวมถึงปฏิสัมพันธ์เชิงลบกับดีลเลอร์ทั้งหลายแหล่ที่เวลานี้กอดคอกันระส่ำหนัก
แหม่ะ!ว่าก็ว่าเหอะอย่าหาว่ารื้อฟื้นความหลังเลย บรรดาดีลเลอร์ใต้ปีก DCVT หากไม่ดัดจริตจนเกินไป คงจะพากันหวนคิดถึงวันเก่าๆกับบ้านหลังเก่าภายใต้แนวทางการทำตลาดแบบง่ายๆสบายๆสไตล์ “บิ๊กA”ดิสทริบิวเตอร์รายเดิมกันเป็นทิวแถวแล้วกระมัง?
ทั้งหมดถูกมัดรวบตึงยืนหนึ่ง “ความล้มเหลว”การทำตลาดฟูโซ่ในไทยที่แท้ True !
อย่างที่เกริ่นไว้หน้าฉาก CEO ในฐานะผู้บริหารสูงสุดในองค์กรรับไปเต็มเปาชนิดไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆกับพิกัด “ความล้มเหลว”แต่หลังฉากยังมี CFO ตัวละครสุดแสบสันต์พรางกายสำทับอำนาจเหนือ CEOพร้อมสำแดงพฤติกรรม “ลับ ลวง พราง”อำนาจบาตรใหญ่ในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่หากไร้ภาวะผู้นำพลางกำ “อีโก้-ตรรกะวิบัติ”แน่นมือ จนนำพาสู่วิบากกรรมซ้ำซากค่ายชบาแดงในกำมือ CFO ของเขาเอง
ทำเอางงในงงกันทั้งบางยังกะถูกมนต์ดำสิงร่าง…ไฉนเล่า? CEO ผู้บริหารสูงสุดในองค์กรถึงตกเป็นลูกไก่ในกำมือ CFO ได้!
ดังนั้น ตราบใดที่ CFO ยังสำแดงอำนาจบาตรใหญ่เหนือ CEO หากจะกะซวกไส้แตกทะลักในภูมิปัญญา&วิสัยทัศน์ของ CEO เพียงคนเดียวก็จะดูไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นัก ต้องสำรากไส้ในพฤติกรรมสุดแสบสันต์ถวัลย์รูถูCFO ด้วยถึงจะสมดุลแห่งบริบทวิพากษ์วิจารณ์
กับการผลิใบผู้บริหารสูงสุด CEO ดีซีวีทีคนใหม่ “มร.สเตฟาโน จิออร์ดานิ”นับเวลาก็ปาเข้าจะครบ 4 เดือนแล้ว ยังเงียบกริบเป็น“เป่าสากฝังครก”ไร้สัญญาณการกำหนดกลยุทธ์และทิศทางการทำตลาดทั้งรถใหญ่ฟูโซ่และเมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่านโลกข่าวสารจากปาก CEO คนใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับดีลเลอร์และลูกค้าคนไทยแต่อย่างใด
ต้องจับตาเป็นพิเศษแหล่ะว่าท้ายที่สุดแล้ว CEO คนที่สอง DCVT จะพลิกตำราฉบับฝรั่งมั่งค่าเล่มไหนทลายล้างซากปรักหักพังที่ CEO คนแรกได้ทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์สยองใจ โดยเฉพาะบริบทแห่งความเข้าใจความหลากหลายและซับซ้อนตลาดรถใหญ่ในไทย มันไม่ใช่แค่ 1+1=2 เท่านั้น หากแต่มันยังมีมากกว่าและซ่อนนัยยะสำคัญไว้ในนั้นอีกบานตะไท
ยากที่จะปฏิเสธได้ว่าหากเข้าใจดีถึงรากเหง้าและธรรมชาติตลาดรถใหญ่ไทยแล้วล่ะก็ ทุกอย่างจะเดินไปได้ด้วยดี ทุกคนในองค์กรรวมถึงดีลเลอร์ก็ทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้ายังดื้อดึงและทะลึ่งสวนทางกันกลับมองว่าลูกค้าไทยไม่แตกต่างอะไรกับลูกค้ายุโรป แค่จุดนี้…มันก็ยากที่จะได้สิทธิ์ไปต่อแล้ว
โปรดจำฝังใจสักนิดก็ดีว่า…ที่นี่คือไทยแลนด์ดินแดนตลาดปราบเซียนมานักต่อนักแล้ว!
ยังไม่รวมถึงการหย่าศึกภายในองค์กรที่ยังคุกรุ่น ที่สำคัญภายใต้ภูมิปัญญา CEO คนใหม่หาญกล้าพอหรือไม่?กับการสำแดงศักยภาพแนวทางการบริหารและกล้าตัดสินใจอย่างอิสระในฐานะ CEO ผู้มีอำนาจสูงสุดในองค์กรฉีกหนีให้พ้นเงามืดอำนาจ CFO เสมือนก้างขวางคอในเบื้องหน้า
แล้วกล้าดีเดือดพอหรือไม่?กับการสะกิดต่อมสำเหนียก CFO ให้เลิกทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน แล้วเร่งฝีเท้าปรับปรุงและแก้ไขพฤติกรรมสุดแสบสันต์ส่วนตัว แต่หากยังบ้าบิ่นและหลงระเริงหนีบคนใกล้ชิด“ติดตัว&หัวใจ”ให้สำเริงราญใน“บทบาทและหน้าที่”ชนิดผิดฝาผิดตัวและมั่วตุ้ม อาจกลายเป็นไฟสุมทรวงCFO เอง และลุกลามบานปลายเผาไหม้อารมณ์ความรู้สึกผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เหลือซาก
หากยังย่ำอยู่กับที่และปล่อยให้ CFO ได้สำแดงฤทธิ์เดชตามอำเภอใจแล้วล่ะก็?โทษฐานที่ไอ้กระผมเคยหลงระเริงในป่าดงดิบสิบล้อไทยมาประมาณหนึ่ง แม้มิบังอาจกล้าสถาปนาตัวเองเป็นกูรูแต่ก็พอหยั่งรู้และกล้าฟันธงฉับๆล่วงหน้าไว้เลย
เบื้องหน้าจากนี้ไป ค่ายชบาแดงภายใต้ชายคา DCVTนับวันเผชิญกับเส้นทางวิบาก(กรรม)ซ้ำซากไม่จบสิ้น!
และนับวันถอยวันถอยหลังดิ่งเหวนรกโลกันต์ “ความล้มเหลว”การทำตลาดในไทยได้เลย!ถึงวันนั้น!ค่ายชบาแดง ณ DCVT ก็จะเหลือแต่ซากปรักหักพังไว้เป็นอนุสรณ์สยองใจ
….มันจึงถึงครา “เอวัง”ก็พังด้วยประการทั้งปวงฉะนี้แล!
:ปีศาจขนส่ง