ถูกโหมโรงโรมรันพันตูกระแทกรูหูชาวบ้านให้ผึ่งกันทั้งบางพลางกระหายกระทืบคันเร่งให้สมใจอยากพระเดชพระคุณท่านในเร็ววัน!สำหรับนโยบายเพิ่มความเร็ว120/ชม.บนทางหลวง 4 เลนอันเป็นผลจากนโยบายเร่งด่วนจี๋ของทั่นรมว.คมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างกายเข้ากระทรวงฯ
ในโลกข่าวสารยุคดิจิทัลยึดครองเมืองมนุษย์แบบเบ็ดเสร็จไอ้กระผมพอย่อยความคืบหน้าจากฝั่งกรมทางหลวง(ทล.)ได้ใจความว่าเบื้องต้นจะนำร่องใน 1 เส้นทาง คือสายเอเชีย(บางปะอิน-นครสวรรค์)ระยะทาง 150.กม.
โดยจะเริ่มจาก 50 กม.พลางๆไปก่อน ส่วนอีก 100 กม.ต่อไปต้องร้องเพลงรอไปก่อน เหตุทล.ต้องควักทุนกว่า 600 ล้านในปีงบประมาณ 63เพื่อปรับสภาพถนน/จุดยูเทิร์น/จุดตัดถนนย่อย หวังเสกถนนสายเอเชียให้พรั่งพร้อมรองรับเพิ่มแรงสปีดระดับ 120 กม./ชม.
ตามแรงโน้มถ่วงโลกข่าวสาร คาด 50 กม.แรกจะเปิดใช้ได้ปี63 ส่วนอีก100 กม.รวมถึงการขยายเพิ่มในอีกถนนหลวงอื่นๆทั้งสายมิตรภาพ, สุขุมวิท, เพชรเกษม ยัง…ต้องหางเรอไปก่อนนะจ๊ะ!
ฟากฝั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ล่ะเรายังไม่ได้ยินเสียงตอบรับหรือแรงกฺระเหี้ยนกฺระหือรืออะไรเลย? และล่าสุดเป็นใครไม่ได้นอกจากคนเก่าเจ้าประจำ”พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ”รองผู้บัญชาการศึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)บอกขณะนี้ฝ่ายปฏิบัติการ สตช.อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงคมนาคมและกรมทางหลวง(ทล.)
สาระสำคัญต้องดำเนินการปรับแก้กฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ มาตรา 67พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และมาตรา 5 พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งสตช.พร้อมที่จะปรับแก้กฎหมายอยู่แล้วแต่ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลานี้ เพราะต้องรอความชัดเจนและคำยืนยันจากทล.ผู้ออกแบบถนนก่อนว่ามีถนนเส้นทางใดบ้างที่พร้อมรองรับความเร็วที่ 120กม.ต่อชม.เพราะสภาพถนนเป็นสิ่งสำคัญ
หากกระทรวงคมนาคมยอมปรับสภาพถนน สตช.เองก็ไม่มีปัญหาพร้อมที่จะปรับเพิ่มความเร็วให้ กระนั้นแล้ ถนนที่จะรองรับความเร็วขนาด 120กม./ชม.ได้ ต้องเป็นถนนที่ไม่มีจุดตัด มีไหล่ทางกว้างเพียงพอและต้องเป็นที่กลับรถ(ยูเทิร์น) แบบเกือกม้า หรืออุโมงค์ไม่ใช่เป็นแบบยูเทิร์นเกาะกลางถนน เพื่อความปลอดภัย
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ย้ำอีกว่าการแก้ไขกฎหมายและมีผลบังคับใช้ เมื่อประกาศออกไปแล้วต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เมื่อปรับเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นแล้ว ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ต้องมีความปลอดภัย มั่นใจว่าต้นปี 63 ไม่เกินเดือน เม.ย.63หรือก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 63 จะมีคำตอบและความชัดเจนเรื่องดังกล่าว
แหม่ะ!!!ได้ยินเสียงยืนยันจากท่าน “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ”เจ้าเก่าขาประจำ ออกโรงพรูพรั่งเยี่ยงนี้ก็อดอมยิ้มไม่ได้…ชิมิ!ครับ แต่จะจริงแท้หรือจิงโจ้…ก็รอดูล่ะกัน!ไอ้กระผมไม่อยากพูดมาก…เจ็บคอครับ!เพราะเคยหลงคารมแกมาหลายครั้งร่ะ โดยเฉพาะปมปลดแอกวงจรอุบาทว์อย่าง “เปอร์เซ็นต์ค่าปรับ”
…ที่ปัจจุบันยังเงียบกริบครับเพ่น้อง!
