ภายหลังฮัทชิสัน พอร์ท ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือชั้นนำในประเทศไทย นำเจ้าหัวลากพลังงานไฟฟ้าไร้คนขับ ‘Qomolo’ 6 คันยกพลขึ้นบกและปรากฏโฉมเป็นครั้งในแรกในวันที่ 26 เม.ย.63 เพื่อทดสอบปฏิบัติงานภายในท่าเทียบเรือชุด D ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นแห่งแรกในไทยและกลุ่มแรกในโลก
กลายเป็น Talk of the town ในแวดวงท่าเทียบเรือและขนส่งไทยกับปรากฏการณ์ครั้งแรกในผืนแผ่นดินไทยและเป็นกลุ่มแรกในโลกอีกด้วยที่ได้นำเจ้าหัวลากไร้คนขับนี้มาทดสอบปฏิบัติงานลากตู้สินค้าจริงภายในท่าเรือเป็นเวลาหนึ่งปี พลางชูลักษณะพิเศษที่ฝังมาพร้อมกับเจ้า‘Qomolo’ คือ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดมลพิษ ลดการสร้างปัจจัยให้เกิดภาวะโลกร้อน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทำเอาผู้คนต่างกังขาในหลักการทำงานและระบบปฏิบัติการขั้นอัจฉริยะของเจ้าหัวลากไร้คนขับ ‘Qomolo’นี้จะสามารถลุยงานจริงได้มีประสิทธิภาพเท่าน้ำมือ”มนุษย์”มากน้อยเพียงใด?หลังต้นทางอย่างฮัทชิสันได้แง้มหลักการทำงานไว้เบื้องต้นว่าจะเป็นการสั่งการผ่าน AI ระบบชาร์จพลังงานแบบไร้สาย ลุยงานต่อเนื่องมากกว่า 24 ชม.พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์ “LiDAR” วิเคราะห์-ประเมินสภาพการจราจรเลี่ยงอุปสรรค-การชนอย่างมีประสิทธิภาพ
กรุยทางสู่เป้าหมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งการยกระดับการบริการสู่การเป็นท่าเทียบเรืออัจฉริยะที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศ จากนั้นไม่นานฮัทชิสัน ก็ได้เผยภาพการปฏิบัติจริงของเจ้าหัวลากไร้คนขับนี้ภายในท่าเรือด้วยการลากตู้คอนเทนเนอร์จริง พร้อมทยอยเผยเทคโนโลยีสุดล้ำเพิ่มเติมที่ฝังมากับเจ้าหัวลาก ‘Qomolo’นี้
ทั้งมิติก้าวล้ำในการวิเคราะห์เส้นทางขนส่งสินค้าและสิ่งกีดขวางระหว่างเส้นทางด้วยกล้อง AI Camera ปูทางในแง่มุมวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน แม่นยำ และความปลอดภัยระดับสูงสุด
ขณะที่ความอัจฉริยะของเซ็นเซอร์ “LiDAR”จะเป็นการวิเคราะห์-ประเมินสภาพการจราจร ตรวจจับสิ่งกีดขวางระหว่างทางขนส่งสินค้าด้วยแสงเลเซอร์เพื่อเลี่ยงอุปสรรคและการชนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเสารับสัญญาณ WIFI และเสารับสัญญาณนำทางด้วยระบบดาวเทียม ส่วนระบบการชาร์จพลังงานจะเป็นแบบแบบไร้สาย โดยชาร์จพลังงานต่อครั้งใช้เวลาเพียง 2 ชม.และสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 140 กม.หรือปฏิบัติงานต่อเนื่องได้นานถึง 8 ชม./ต่อการใช้ชาร์จหนึ่งครั้ง
ย้ำอีกทีนะครับ นี่คือการทดลองปฏิบัติงานจริงภายในท่าเรือที่มีการพิกัดพื้นที่ให้เจ้า ‘Qomolo’นี้ได้วาดลวดลายฉายความอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีสุดล้ำเป็นเวลา 1 ปีเป็นการเฉพาะ ไม่ได้ออกไปวิ่งเพ่นพ่าน&ซ่าส์นอกพิกัดพื้นที่แต่อย่างใด…นะจ๊ะสิบอกให่!
ส่วนความคืบหน้าจากการทดลองปฏิบัติงานจริง เราคงได้รับการข้อมูลดิบและจริงทางลึกจากทางฮัทชิสันเรื่อยๆจากนี้ไป ถึงกระนั้น จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันคือการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีแทนมนุษย์(จริงๆนะ)ที่มนุษย์ต้องเรียนรู้เพื่อให้อยู่กับกันได้
….อย่างประสิทธิภาพ&มิตรภาพ!