เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ประจำปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) โดยเปรียบเทียบกับปีก่อน สรุปดังนี้
ทกท. เรือเทียบท่า 3,791 เที่ยว เพิ่มขึ้น 16.90 % สินค้าผ่านท่า 21.476 ล้านตัน ลดลง 2.60 %
ตู้สินค้าผ่านท่า 1.451 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 3.10 %
ทลฉ. เรือเทียบท่า 10,686 เที่ยว ลดลง 8.00% สินค้าผ่านท่า 90.156 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.20 %
ตู้สินค้าผ่านท่า 8.110 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 1.14 %
ทชส. เรือเทียบท่า 2,912 เที่ยว ลดลง 19.42 % สินค้าผ่านท่า 243,791 ตัน ลดลง 4.29 %
ตู้สินค้าผ่านท่า 3,460 ตู้ เพิ่มขึ้น 23.26 %
ทชข. เรือเทียบท่า 806 เที่ยว ลดลง 25.58 % สินค้าผ่านท่า 52,945 ตัน ลดลง 25.92 %
ทรน. เรือเทียบท่า 318 เที่ยว เพิ่มขึ้น 10.42 % สินค้าผ่านท่า 135,061 ตัน เพิ่มขึ้น 51.43 % ตู้สินค้าผ่านท่า 3,715 ตู้ เพิ่มขึ้น 63.30 %
ผลการดำเนินงานของ กทท. มีตู้สินค้าผ่านท่าทั้งที่ ทกท. และ ทลฉ. รวม 9.558 ล้าน ที.อี.ยู.รวมรายได้ปีงบประมาณ 2562 เป็นจำนวน 15,157 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้าการตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว อีกทั้งจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศยกเลิก GSP หรือสิทธิพิเศษทางการค้า ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ ทรน. เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนโยบายส่งเสริมกรอบความร่วมมือในกลุ่มประเทศ BIMSTEC กับ ทรน. ส่งผลให้ผลการดำเนินการด้านเรือเทียบท่าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.42 ด้านสินค้าและตู้สินค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.43 และ 63.30 ตามลำดับ