“จิรุตม์” โวนโยบาย Checking Point ช่วยลดอุบัติเหตุลงได้จริง ชี้สถิติเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะมีค่าเฉลี่ยลดลงเหลือ 0.91 ครั้ง/วันจากค่าเฉลี่ยช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 1.24 ครั้ง/วัน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า นโยบายตั้งจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ที่ให้กรมฯตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของรถโดยสารสาธารณะ และสมรรถภาพร่างกายพนักงานขับรถตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. รวมทั้งตั้งจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ทุกระยะทาง 90 กม. ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาพบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะมีค่าเฉลี่ยลดลงเหลือ 0.91 ครั้งต่อวัน จากค่าเฉลี่ยช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1.24 ครั้งต่อวัน
“จนถึงวันที่ 9 พ.ย. มีรถโดยสารสาธารณะเข้าตรวจสภาพแล้ว 74,005 คัน จากที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพทั้งหมด 122,260 คัน คิดเป็นร้อยละ 60.35 มีผลตรวจสอบดังนี้ รถโดยสารประจำทางเข้าตรวจสภาพ 37,817 คัน ผ่าน 36,430 คัน ไม่ผ่าน 1,387 คัน รถโดยสารไม่ประจำทางเข้าตรวจ 36,188 คัน ผ่าน 34,901 คัน ไม่ผ่าน 1,287 คัน ความบกพร่องที่พบส่วนใหญ่ เช่น ระบบห้ามล้อ ควันดำ ระบบไฟชำรุด โดยให้นำรถไปแก้ไขและเข้าตรวจสอบอีกครั้งภายใน 15 วัน”
นายจิรุตม์ กล่าวอีกว่าส่วนพนักงานขับรถเข้าตรวจสมรรถภาพความพร้อมของร่างกายแล้ว 69,540 คน ผ่าน 69,471 คน ไม่ผ่าน 69 คน โดยให้กลับไปแก้ไข เช่น พบแพทย์ ตัดแว่นสายตา และกลับมาทดสอบใหม่ภายใน 7-15 วัน เพื่อให้รถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถมีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติที่อย่างปลอดภัย
“สำหรับจุดเช็กพอยส์ จนถึงปัจจุบันมีรถโดยสารสาธารณะเข้าตรวจทั่วประเทศแล้ว 919,662 ครั้ง เป็นรถโดยสารประจำทาง 851,782 ครั้ง รถโดยสารไม่ประจำทาง 67,880 ครั้ง พบความบกพร่องของรถ เช่น ระบบห้ามล้อ ควันดำ ระบบไฟชำรุด ส่วนพนักงานขับรถมีความบกพร่อง เช่น ชั่วโมงการทำงานเกิน ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด เป็นต้น ตักเตือนและดำเนินการตามกฎหมายทุกราย”
