“ทรู วิชั่นส์” หัวหมุนไล่ปิดเว็บเถื่อนปาดหน้าถ่ายสดฟุตบอล “พรีเมียร์ ลีก” ท่วมจอ ขณะ กสทช. ได้แต่แบ๊ะๆ ๆ ๆ ยังสาละวนคลำทางหาช่องเก็บภาษี OTT ตามนโยบายรัฐ
แหล่งข่าวในวงการโทรทัศน์ เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท ทรู วิชั่นส์ฯ ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ของอังกฤษ ได้ร่อนแถลงการณ์ห้ามผู้ให้บริการรายการโทรทัศน์ใดๆ ดำเนินการแพร่ภาพการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ในทุกแพลตฟอร์ม และทุกช่องทาง
โดยยืนยันว่า เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษรายเดียวในประเทศที่ครอบคลุมในทุกแพลตฟอร์ม จนทำให้บริษัท เอสบีเอ็น (SBN) ในเครือ เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นที่ไม่ใช่คลื่นความถี่ ผ่าน AIS Play และ AIS Play Box และสมาร์ทโฟน ต้องทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการกิจการ วิทยุ กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอระงับการปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ “มัสต์ แคร์รี่” ( Must carry) ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องแพร่ภาพออกอากาศ รายการกีฬานัดสำคัญของมวลมนุษยชาติ
แต่กลับถูก กสทช. มีมติยืนยันให้บริษัทต้องปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ดังกล่าว จนสร้างความสับสนให้แก่บริษัทที่ไม่อยากมีปัญหาต้องถูกฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลอีก
ล่าสุด จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า แม้ลูกค้าในเครือข่าย เอไอเอส จะไม่สามารถดูรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรายการดังกล่าวได้โดยตรง แต่กลับพบว่า มีเว็บเถื่อนที่ให้บริการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกดังกล่าวว่อนไปทั้งโซเชียล โดยที่ บริษัท ทรูวิชั่นส์ และ กสทช.เอง ไม่สามารถจะควบคุมและปิดกั้นได้เนื่องจากบรรดาเว็บค่าเหล่านั้น ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ และแม้จะพยายามปิดกั้นช่องทางการถ่ายทอด แต่บรรดาเว็บ ถ้าเรานั้นก็ยังสามารถดำเนินการแก้ลำกลับมาถ่ายทอดผ่านเว็บสำรองอื่นๆ ได้อยู่ดี
“แค่เสิร์ชหาเว็บที่ถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเข้าไปใน Google ก็ขึ้น เว็บท่าต่างๆ นับสิบรายให้เลือกดูได้ตามใจชอบ โดยแต่ละรายนั้น ยังมีเว็บสำรองในกรณีที่ เว็บหลักถูกบล็อกหรือถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วย เลยกลายเป็นว่า วันนี้ทั้ง กสทช. และ ทรูวิชั่นส์ กำลังไล่ตามเงา ไม่สามารถจะจัดการกับเว็บเถื่อนเหล่านี้ได้”
แหล่งข่าว เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลักเกณฑ์มัสต์ แคร์รี่ ตามประกาศ กสทช. ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่มีปัญหาในทางปฏิบัติมาโดยตลอด เพราะก่อนหน้านี้ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่ กสทช. บังคับให้ต้องทำตามหลักเกณฑ์มัสต์ แคร์รี่ ก็ได้เกิดกรณีการฟ้องร้องลิขสิทธิ์บอลโลกกันอิรุงตุงนังกันมาแล้ว โดยที่ กสทช. ไม่สามารถจะปกป้องประกาศของตนเองเมื่อถูกฟ้องว่าละเมิด พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ได้ กลายเป็นการออกประกาศที่สร้างความปั่นป่วนให้แก่วงการธุรกิจ เพราะไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง
ขนาดที่จากการตรวจสอบไปยัง กสทช. พบว่า ขณะนี้กำลังสาละวนอยู่กับการหารือผู้ให้บริการโทรคมนาคม หรือ Over the top : OTT อาทิ เฟซบุ๊ค เฟซบุ๊คไลฟ์ ยูทูป ไลน์ทีวี ทวิตเตอร์ เพื่อหาทางจัดระเบียบและจัดเก็บรายได้จากผู้ให้บริการ จากเหล่านี้ จนแทบไม่มีเวลาไปไล่ปิดเว็บเถื่อนหรือไม่