ธุรกิจขนส่ง “ต้นทุน”คือสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการล้วนแต่มุ่งเน้นและแสวงหากลไกสำคัญเพื่อเป็นตัวแปรในการลดต้นทุนการขนส่ง ทั้งในส่วนระบบการบริหารจัดการ ทรัพยากรบุคคล(พขร.)ยานพาหนะ การบำรุงรักษา และค่าเชื้อเพลิง รวมทั้งต้นทุนแฝงอื่นๆอีกจิปาถะ
“พนักงานขับรถ-รถบรรทุก-ค่าเชื้อเพลิง” เชื่อเหลือเกินว่าบรรดาเถ้าแก่ขนส่งทั้งหลายคงกุมขมับไม่น้อยในการหาวิธีการเพื่อลดต้นทุนใน 3 โจทย์สำคัญดังกล่าว
Truck Platooning น่าจะคุ้นหูกันบ้างในแวดวงขนส่งและโลจิสติกส์ เพราะนี่คือเดินรถโดยนำเทคโนโลยีมาใช้กับรถบรรทุกที่มีคนขับที่คันหน้า โดยคันที่วิ่งตามหลังบางคันไร้คนขับ ตอบโจทย์การลดต้นทุนในส่วนพนักงานขับรถ ประหยัดพลังงาน เพิ่มความปลอดภัย และประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์รวม
ว่ากันว่าโมเดลนี้ในยุโรปเริ่มทดลองการเดินรถแบบนี้ในหลายประเทศ เป็นกลุ่มละ 2-5 คัน ทำให้ประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 6% ประหยัดค่าคนขับรถมากกว่า 90% ปัจจุบันมีการทดลองวิ่งครั้งละ 5 คันแต่ใช้คนขับเพียงคนเดียว
รถประเภทนี้ได้ทยอยคลอดจากโรงงานบรรดาค่ายรถใหญ่ชั้นนำโลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Scania, Volvo, DAF, Benz ที่มีกลไกควบคุมความเร็ว (Automated Cruise Control) และระบบเบรคอัตโนมัติ มีระบบกล้องอินฟราเรดเพื่อควบคุมช่องจราจร ระบบเรด้าควบคุมการวิ่งแนวราบ
GPS ระบบ V2V คือควบคุมความเร็วระยะระหว่างรถแต่ละคันผ่าน Wifi เพื่อลดแรงประทะจากอากาศ หรือ Aerodynamic ที่ทำให้ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงมากกว่า 6% ระยะทางระหว่างรถยนต์แต่ละคันลดลงจาก 20 เมตรในระยะแรก เหลือเพียง 10 เมตรในปัจจุบัน
ปัญหาคือโมเดลนี้จะนำมาใช้ในไทยแลนด์ได้หรือไม่?
ตอบเลยถ้าจะเกิดขึ้น ณ แผ่นดินสยามได้ เรื่องแรกเลยก็ต้องมีกฎหมายรองรับ มันต้องมีเลนพิเศษสำหรับรถกลุ่มนี้ โครงสร้างพื้นฐานคือถนนหนทางต้องดี มีสินค้าในเส้นทางเดียวกันมากพอ ส่วนค่ารถยนต์ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มไม่มากนัก เพิ่มคันละไม่ถึง 5 แสนบาทจากราคารถปกติ
ก็ได้แต่ฝันลมๆแล้งแหล่ะว่าในอนาคตมันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่? แต่เวลานี้ “กับดัก”ที่หนักอกประเทศไทยหนีไม่พ้นปัญหาประชาชนคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากสุดเป็นอันดับสองของโลก ว่ากันว่าปาเข้าไปปีละกว่า 2 ชีวิต
พิสูจน์ทราบได้ในโลกโซเชียลก็เต็มไปด้วยข่าวอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บ/ชีวิตรายวัน ดูไปเสพไปก็ได้แต่หดหู่ใจพลางนึกในใจเมื่อไหร่จะลดลงบ้างไรบ้าง?
…คิดมาแล้วก็เพลียตับ ไต ใส้ พุง/ปวดกบาลจริงๆ!
:ปีศาจขนส่ง
CR.ข้อมูล/ภาพประกอบจาก FB DrKumnai Aphiprachayasakul