ยังเรียกแสงสปอร์ตไลท์ฉายภาพรมต.ใหม่ไฟแรงออร่าต่อเนื่องสำหรับท่านรมว.คมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”ล่าสุด แบ่งงาน 2 รมช.พร้อมจัดหนักจัดเต็มนโยบาย 5 ด้านสนองตอบประโยชน์ประชาชนสุดลิ่ม ประกาศเปรี้ยง No!คอรัปชั่น No!ค่าโง่ ย้ำทุกโครงการ “ต้องโปร่งใส- ตรวจสอบได้”
บรรดานโยบายทั้งหลายแหล่ ที่น่าจับตาอย่างยิ่งยวด คือ 4 นโยบายเร่งด่วน ประกอบด้วย 1) การแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 2) การแก้ไขปัญหามลภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากรถบรรทุก-รถโดยสารสาธารณะ
3) ปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน และ 4) กำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อระบายการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาข้อมูลถึงข้อดี-เสีย และประสานไปยังสำนักตำรวจแห่งชาติ(สตช.)พร้อมประกาศิตต้องนำเสนอแผนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทั้ง 4 เรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
เมื่อคลี่4 นโยบายเร่งด่วนแล้ว2นโยบายแรกยังถือว่าธรรมดสามัญไป แต่นโยบายที่ 3 ก็ไม่รู้ว่าท่านรมว.คมนาคมคลอด 4 นโยบายเร่งด่วนหวังเป็นนโยบาย“เรียกเรทติ้ง”หรือ“เรียกแขก”กันแน่ เพราะดันไปแตะนโยบายเกี่ยวกับขาใหญ่บนท้องถนนอย่างสิงห์รถบรรทุก(อีกแล้ว)
ห้ามสิบล้อวิ่งกลางวัน อ้างเป็นโมเดลต่างประเทศ
นโยบายนี้สอดคล้องกับนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการแก้ปัญหาจราจร คือการบังคับใช้กฎหมายร่วมกับตำรวจเรื่องการขนส่งรถบรรทุกในเขตกรุงเทพปละปริมณฑลเพื่อแก้ปัญหารถติดในเมืองหลวง โดยจะบังคับให้รถบรรทุกห้ามวิ่งขนส่งในช่วงเวลาทั้งกลางวันและจะอนุญาตให้วิ่งเฉพาะเวลา 00.00-04.00 น. เพียงเท่านั้น
“ยืนยันโมเดลนี้เป็นนโยบายที่ต่างประเทศบังคับใช้กันหมดแล้ว ดังนั้นประเทศไทยจึงควรลองนำแนวทางมาปรับใช้ในบ้านเราจากนั้นกระทรวงคมนาคมจะขอความร่วมมือรถบรรทุก และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป”
หากเกิดขึ้นจริงพี่น้องสิงห์รถบรรทุกเตรียมใจ…รับ “ชะตากรรม-เคราะห์กรรม”ได้เลย!
บนนถนนหลางเหยียบคันเร่งได้ 120/ชม.
ส่วนนโยบายเพิ่มความเร็วบนถนนหลวงเป็น 120/ชม.ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายเร่งที่บอกเลยฮือฮาไม่น้อย และไม่คาดคิดรมต.ไฟแรง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”จะกล้าแตะ“เผือกร้อน”กฎหมายที่สังคมตีแสกหน้าว่าผูกโยงด้วย “ผลประโยชน์”คาบเกี่ยวทั้งกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ไม่ว่าจะยุครัฐบาลไหน-รมว.คมนาคมท่านใด…กล้าแตะสู่การ “แก้ไข”ใหม่! แต่ “ศักดิ์สยาม” จัดให้!
นโยบายนี้เป็นแผนแก้กฎหมาย-กฎกระทรวงคมนาคม เพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ เป็นห้ามเกิน 120 กม./ชม. จากเดิมกฎหมายกำหนดให้ใช้ความเร็วบนถนนปกติห้ามเกิน 80 กม./ชม. และความเร็วบนถนนมอเตอร์เวย์ห้ามเกิน 90 กม./ชม.
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษามั่นใจจะไม่ทำให้ยอดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนมักจะเกิดในถนนที่มีเพียง 2 ช่องจราจร การเพิ่มความเร็วดัวกล่าวจะทำให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการขับขี่คนไทยขับรถเร็วกว่า 100 กม./ชม. อยู่แล้วบนถนนสายหลัก”
ดังนั้นมาตรฐานความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.จะบังคับใช้กับทั้งรถยนต์ส่วนบุุคคล และเป็นการปลดล็อคความเร็ว GPS ของรถขนส่งสาธารณะทั้งรถตู้ รถทัวร์ รถโดยสารไม่ประจำทาง และรถแท็กซี่ถึงกระนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย โดยจะเร่งหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำความเข้าใจร่วมกันก่อนออกกฎกระทรวงคมนาคมบังคับใช้ต่อไป
ยันไม่บังคับใช้ถนนทุกสาย
ด้าน นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่านโยบายจำกัดความเร็ว 120 กม./ชม.หลังเสนอข้อมูลไปยังกฤษฎีกาและประกาศกฎกระทรวงก็จะเริ่มบังคับใช้ ยืนยันว่าจะไม่บังคับใช้กับถนนทุกสายที่มี 4 ช่องจราจร โดยจะพิจารณาจาก 1.สภาพความพร้อมของถนน 2.ความคดเคี้ยวของถนน 3.ต้องเป็นถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป
“ส่วนการห้ามรถบรรทุกวิ่งช่วงกลางวันและอนุญาตให้วิ่งเวลาเฉพาะเวลา 00.00-04.00 น. เพียงเท่านั้นจะเสนอผลศึกษาเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อขอมติเห็นชอบและสั่งบังคับใช้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติต่อไป ยืนยันหากรถบรรทุกที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามกฎหมายขนส่งและจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่นอนเมื่อบังคับใช้นโยบายดังกล่าวแล้ว”
ถือเป็น 2 นโยบายเร่งด่วนต่างขั้วอารมณ์ของสังคม นโยบายห้ามสิบล้อวิ่งกลางวันและอนุญาตให้วิ่งเวลาเฉพาะเวลา 00.00-04.00 น.เท่านั้น ในมุมผู้ประกอบการ-สิงห์รถบรรทุกเชื่อเหลือเกินว่า “ไม่สบอารมณ์”พลุกพล่านแน่ๆฟากอารมณ์สังคมผู้ใช้รถเล็กอาจ “แฮปปี้สุดๆ” ก็เป็นได้
ขณะที่นโยบายเพิ่มความเร็วบนนถนนหลางแตะคันเร่งได้120/ชม. เชื่อว่านโยบายนี้หากทำได้จริงได้ใจประชาชนไปเต็มๆ เพราะนี่คือข้อบังคับ-กำหนดที่ตัวบทที่ถูกมอง“โบราณ”มากๆ ข้อกำหนดความเร็วรถยนต์บนทางหลวงต้องไม่เกิน 90 กม./ชม.ช่างไม่สอดคล้องสถานการณ์จริงในปัจจุบัน ทั้งในแง่มุมเทคโนโลยี-นวัตกรรมยานยนต์ที่ก้าวล้ำไปไกล และสภาพถนนหนทางที่ถูกพัฒนาดีขึ้น
แต่กฎหมายถูกมองว่า “ล้าหลัง”ที่สำคัญยังเปิดช่องโหว่รูเบ้อเริ้มให้เจ้าหน้าที่รัฐน้ำเลวบางคนบางพวกใช้บังหน้า“สูบเลือดประชาชน”หาเศษหาเลย“โกยเงิน”เข้ากระเป๋าตัวเองจนพุงกางบนความเดือดร้อนของประชาชน
ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าท่านรมต.ไฟแรง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”จะสามารถปลดแอกปัญหาความเร็วรถยนต์ที่ถูกถกเถียง-วิพากษ์วิจารณ์มาอย่างยาวนานนี้ได้หรือไม่? (หากไม่เจอตอซะก่อน)
….ปูเสื่อรออีก 1 เดือนรู้กันจะหมู่หรือจ่า?
