ยังเป็น Talk of the town ในโลกออนไลน์ต่อเนื่องสำหรับนโยบายเร่งด่วนที่พรั่งพรูออกมาเป็นสายจากกระทรวงคมนาคม ที่มีหัวหมูทะลวงฟันไฟแรงแซงทุกโค้งรัฐมนตรีรัฐบาลประยุทธ์ 2
โดยเฉพาะการเล็งเพิ่มอัตราความเร็วบนถนนหลวง 4 เลนเป็น 120/ชม. เป็นประเด็นร้อนฉ่าในโลกโซเชียลเรียลไทม์ในหลายข้อสงสัย ทั้งข้อกังขากฎหมายนี้จะถูกบังคับใช้กับถนนหลวง 4 เลนทั่วประเทศหรอไม่? และบังคับใช้กับรถทุกประเภทหรือไม่?
และอีกหนึ่งข้อกังขายอดฮิตเมื่อเพิ่มอัตราความเร็วใหม่เป็น 120/ชม. แล้วรถยนต์ที่วิ่งช้าแช่เลนขวาเป็นอาจิณจะเป็นอุปสรรคหรือไม่? ควรจะมีบทลงโทษกับบรรดา “จอมแช่” หรือไม่?
ล่าสุด เจ้ากระทรวงหูกวางไฟแร๊งส์ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ออกโรงอัพเดทแนวทางการบังคับใช้การเพิ่มอัตราความเร็วบนถนนหลวง 4 เลนว่าจะบังคับใช้เป็นความเร็วพื้นฐานในบางช่องจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยแบ่งเป็นช่องซ้ายสุดสำหรับยานพาหนะที่ขับช้า เช่นรถบรรทุกและรถยนต์ทั่วไป
ส่วนช่องจราจรถัดมาคือช่องที่บังคับใช้ความเร็วปานกลางรวมถึงเป็นช่องจราจรที่ให้รถขับช้าไว้แซงกัน ส่วน 2 ช่องจราจรด้านขวาสุดนั้นจะกำหนดความเร็วในการขับขี่ห้ามต่ำกว่า 80 กม./ชม. และห้ามเกิน 120 กม./ชม. หรือความเร็วระหว่าง 80-120 กม./ชม. เท่านั้น
สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามความเร็วที่กำหนดใน 2 ช่องจราจรขวาสุดนั้นจะต้องมีโทษตักเตือนไปจนถึงโทษปรับตามกฎหมายหากมีการทำผิดซ้ำซ้อน ซึ่งบทลงโทษนี้จะเป็นการลดปริมาณรถขับช้าที่ชอบแช่ช่องจราจรขวาสุดอีกด้วย
เรื่องนี้เป็นข้อถกเถียงกันมานานและเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะตามกฎหมายจราจรผู้ขับขี่ในลักษณะนี้(ขับช้าแช่เลนขวา)ถือว่า มีความผิด 2 กระทง คือ 1.มาตรา 34 บัญญัติไว้ว่าถนนที่มีการแบ่งเส้นจราจรมากกว่า 2 เลนขึ้นไป ผู้ขับขี่ต้องขับชิดขอบทางด้านซ้าย หากไม่ปฏิบัติตามอาจโดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และ 2.การขับรถกีดขวาทางจราจร โทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท
ส่วนประเด็นที่ว่าสามารถใช้ได้กับถนนทั่วประเทศที่มีช่องจราจร 4 เลนหรือไม่?
ข้อกังขานี้ปลัดกระทรวงคมนาคม “ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ” ออกโรงยืนยันว่าจะไม่บังคับใช้กับถนนทุกสายที่มี 4 ช่องจราจร โดยจะต้องพิจารณาจาก 3 องค์ประกอบ คือ 1.สภาพความพร้อมของถนน 2.ความคดเคี้ยวของถนน 3.ต้องเป็นถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป
สอดคล้องกับพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ หนึ่งในคณะทำงานแก้ไขกฎหมายจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) บอกเช่นกันว่าไม่ใช่ถนนทุกสายจะวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อชั่วโมง ทั้งนี้ต้องมาดูในรายละเอียดดูในหลายองศ์ประกอบ อาทิ ประเภทถนน สภาพแวดล้อม องศ์ประกอบความกว้างของถนน การตัดผ่านทางเข้า-ทางออก เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมทางถนนที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นต้น
ส่วนประเด็นจะบังคับใช้กับรถทุกประเภทหรือไม่นั้น ท่านรมต.ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ระบุชัดครอบคลุมเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ส่วนด้านรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะยังบังคับใช้กฎหมายความเร็วเท่าเดิมคือ 80-90 กม.ให้สอดคล้องกับมาตรการ GPS ตรวจจับความเร็วของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งหลายทั้งปวงนโยบายเร่งด่วนนี้เป็นแนวนโยบายสดๆร้อนๆที่รมว.คมนาคม ประกาศและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลถึงข้อดี-เสีย และประสานไปยังสำนักตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พร้อมนำเสนอแผนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน\
งานนี้แม้จะเร่งด่วนแต่ก็ต้องดูกันยาวๆว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน?
