“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)โดยนางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกัน“กลุ่มโรคหลอดเลือดตีบ”ซึ่งเกิดขึ้นได้ในหลอดเลือดที่ใช้งานมานาน รวมถึงผู้ที่มีภาวะปัจจัยเสี่ยงซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัยแต่จะไม่แสดงอาการในระยะแรกเริ่ม จึงได้ร่วมกับ นายแพทย์สุรพันธ์ ทวีวิกยการ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์จัดโปรแกรมตรวจป้องกันโรคหลอดเลือดตีบสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี
ประกอบด้วย“ตรวจหาหินปูนเกาะบนหลอดเลือดหัวใจ” (Calcium Score)ราคา 3,200 บาท“ฉีดสารทึบแสงดูสภาพหลอดเลือดหัวใจ”(CTA Coronary)ราคา 14,900 บาท“การสวนหัวใจ”(CAG Coronary Angiography)ราคา 35,000 บาทและ “ใส่ขดลวดถ่างขยายหลอดเลือด” (CAG+PCI Percutaneous Catheterization)ราคา 180,000 บาทพร้อมรับบริการผ่อนชำระ0% กับบัตรเคทีซีนาน 3 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป / รับบริการผ่อนชำระ0% กับบัตรเคทีซีนาน6 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป และรับบริการผ่อนชำระ0% กับบัตรเคทีซีนาน10 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 80,000 บาทขึ้นไป ณ ศูนย์สวนหลอดเลือดทั่วร่างกาย (Vascular Suite & Cardiac Catheterization Center)โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ตั้งแต่วันที่ 1มิถุนายน2562 – 31 สิงหาคม 2562
นายแพทย์วิโรจน์ ตันติโกสุม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์กล่าวว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นภัยเงียบที่ต้องรู้เท่าทันเกิดจากภาวะที่มีการสะสมของไขมันบนผนังของหลอดเลือดแดงทำให้หลอดเลือดแดงเกิดภาวะแข็งตัวร่วมกับภาวะตีบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดรวมถึงออกซิเจนไปกล้ามเนื้อหัวใจลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย และนำไปสู่อาการร้ายแรงอื่นๆ ได้ในอนาคตโดยอาการบ่งบอกโรคนั้นเกิดขึ้นได้ช้า ใช้เวลาเป็นปีจึงมีความจำเป็นในการตรวจหาภาวะของการสะสมไขมันบนผนังของหลอดเลือดแดงในเบื้องต้น เพื่อตรวจหาภาวะเสี่ยงและเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องได้ในลำดับต่อไป”
นายแพทย์ธรรณวัฐ วัฒนาเศรษฐ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรังสีแพทย์วินิจฉัยและผู้อำนวยการศูนย์ภาพรังสีวินิจฉัยทางการแพทย์โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์กล่าวว่า “การตรวจหาหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ ด้วยระบบ X-RayCT Calcium Scoreที่บริเวณหลอดเลือดแดงหลัก เป็นการตรวจหาภาวะเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในระยะเริ่มต้นในคนปกติได้เป็นอย่างดี โดยการตรวจจะแสดงค่าแคลเซียมหรือหินปูนที่ตรวจพบแม้จะมีในปริมาณที่น้อย และแปลผลเป็นตัวเลขที่ทำนายโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือโรคหัวใจขาดเลือด (Coronary Artery Disease)แม้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม โดยจะนำมาพิจารณาร่วมกับปัจจัยเสี่ยง ยิ่งหากผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงด้านอื่นๆ สูง ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ในอนาคต”
นายแพทย์อนุชิต รวมธารทองแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน X-ray Interventionโรงพยาบาลเกษมราษฎร์
อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์กล่าวว่า “โรคหลอดเลือดส่วนอื่นทั่วร่างกาย สำคัญไม่แพ้หลอดเลือดหัวใจคนที่อยู่ในสภาวะของคนที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง คนที่สูบบุหรี่และคนอ้วนมีโอกาสที่จะมีความตีบแคบ ซึ่งก่อให้เกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ไม่เพียงพอ เช่น ถ้าเกิดที่เส้นเลือดหัวใจก็ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หากเกิดที่เส้นสมองจะก่อให้เกิดภาวะอัมพาตได้ หรือในผู้สูงอายุและคนที่เป็นเบาหวานมานาน ก็สามารถเกิดโรคหลอดเลือดส่วนปลายแขนขาอุดตันได้ โรคนี้จึงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนของร่างกาย”
ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้ารับการตรวจในโปรแกรมป้องกันโรคหลอดเลือดตีบ สามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือที่เว็บไซต์ www.ktc.co.thสมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์ได้ที่นี่ http://bit.ly/2uPcS19 #สุขไม่จำกัด กับบัตรเคทีซี