“ส่งออกไทย”ปีหมูทอง กับพลวัตสงครามการค้า

0
226

หลังกระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกไทยปี 61 เติบโต 6.7 % ต่ำกว่าเป้าหมายคาดการณ์ไว้ที่ 8% มีมูลค่า 252,486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยได้ดุลการค้าทั้งปี 2561 มูลค่า 3,254 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อ้างการส่งออกเดือนธ.ค.61ขยายตัวติดลบเป็นผลมาจากปัจจัยเสี่ยงข้อพิพาททางการค้าและแนวโน้มการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีโดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์และแผงวงจรไฟฟ้า

พร้อมกับชี้แนวโน้มการส่งออก 62 ยังต้องเผชิญความท้าทายจากความผันผวนและปัจจัยเสี่ยงภายนอกโดยเฉพาะประเด็นข้อพิพาททางการค้า 2 มหาอำนาจโลกระหว่างจีนกับอเมริกา รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงตั้งเป้าหมายการส่งออกปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8%

ขณะที่ภาคเอกชนอย่างสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ออกโรงคาดการณ์ส่งออกปี 62 ไว้ที่ 5 % สวนเลนกับการคาดการณ์กระทรวงพาณิชย์ ชี้ส่งออกไทยยังต้องฝ่า 3 ปัจจัยเสี่ยง “สงครามการค้า-ค่าเงินผันผวน-เหตุป่วนทางการเมือง” ลุ้นตัวโก่ง 3 ปัจจัยเสี่ยงไม่สุดโต่งหนุนส่งออกไทยปีหมูทองอิ่มท้อง

Trade War จีน-มะกันป่วนเศรษฐกิจโลก

“ภาคการภาคส่งออกไทยปี 61เดิมทีสรท.ได้ปรับตัวเลขการเติบโตตั้งแต่กลางปี 61 จาก 5 % ขึ้นเป็น 7%และมองไปจนถึง 8-9% แต่ทว่า พอเอาเข้าจริงแล้วเมื่อต้องเผชิญสงครามการค้าของประเทศมหาอำนาจโลกระหว่างจีนกับอเมริกา ทำให้ตัวเลขการส่งออกไทยทั้งเติบโต 6.7% ไปไม่ถึง 7 % ซึ่งไม่กระทบกับประเทศไทยแค่ประเทศเดียว มันส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก” 

ปรารภแรก วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา  รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)กับการให้สัมภาษณ์พิเศษ Logistics Time ถึงภาพรวมการส่งออกไทยปี 61 พร้อมกับระบุอีกว่าสงครามการค้าของ 2 มหาอำนาจโลกไม่ใช่มีผู้เล่นเพียงแค่จีนกับอเมริกาเท่านั้น  มันยังส่งให้บรรยากาศการค้าโลกชะงักไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เพราะไม่มีใครกล้าผลิตสินค้ารอเอาไว้ หรือแม้กระทั่งมหาอำนาจจีนเองก็ไม่กล้าสต็อกสินค้าเอาไว้ ทั่วโลกกังวลว่าสงครามการค้าครั้งนี้มันจะจบอย่างไร

 “ท่ามกลางสถานการณ์ข้อพิพาทการค้าจีนกับอเมริกายังไม่มีข้อสรุป ย่อมส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าทั่วโลก การผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกของแต่ละประเทศก็จะเป็นไปในลักษณะออเดอร์ต่อออเดอร์ล้วนๆ และเป็นไปในช่วงสั้นๆอย่าลืมว่าภาคการส่งออกในโลกการค้ายุคปัจจุบันการผลิตสินค้าตัวใดตัวหนึ่งมักจะมีเกื้อกูลกัน เช่น ประเทศนี้เก่งสินค้าตัวนี้ประเทศนั้นเก่งผลิตวัตถุดิบในตัวนั้น ก่อให้เกิดการมาร่วมลงทุนกันเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอเมริกา หรือจีน หรือแม้กระทั่งฝั่งอื่นๆ สินค้าตัวเดียวอาจจะเกิดขึ้นจากการผลิตจากหลายๆประเทศร่วมกัน เพราะฉะนั้น เวลาการเกิดสงครามการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจก็เลยส่งผลกระทบกับประเทศอื่นทั่วโลกด้วย”

คาดส่งออกไทยปี 62 โต 5%

ต่อประเด็นทางสรท.ตั้งเป้าการเติบโตส่งออกไทยปี 62 ไว้มากน้อยเพียงใดนั้น รองประธานสรท.สะท้อนมุมมองว่าภาคการส่งออกไทยปีนี้ทางสรท.คาดการณ์ตัวเลขการเติบโตไว้ที่ 5% กรณีปัจจัยเสี่ยงด้านสงครามการค้าจีนกับอเมริกาไม่ขยายวงกว้างไปไกลกว่านี้ และสามารถจบได้ตรงจุดที่กำลังเจรจากันอยู่ตอนนี้ เป้าโตไว้ที่ 5 % ยังพอมีความเป็นไปได้สูง

“อีกปัจจัยเสี่ยงเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ที่จะมีผลต่อความสามารถทางการแข่งขันที่เราต้องจับตาเป็นพิเศษ เพราะช่วงที่ผ่านมาพอเปิดศักราชใหม่ต้นเดือนปี 62 ค่าเงินบาทแข็งค่าพอถึงกลางเดือนแข็งค่าอีกครั้ง ซึ่งค่าเงินบาทมันไม่ได้เกิดขึ้นจากปัจจัยที่เรามีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจจริงๆ แต่มันเกิดจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่สำคัญประเทศคู่ค้าซึ่งเป็นคู่แข่งผลิตสินค้าคล้ายๆกับไทยเรา หรือในกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ค่าเงินเขาอ่อนกว่าเรา เราจะเสียเปรียบเวลาเสนอราคาสินค้าตัวนั้นทันที”

อนาคตส่งออกไทยหมูทองกับ 3 ปัจจัยเสี่ยง

อย่างไรก็ดี วิศิษฐ์ สรุปปิดท้ายว่าหากจะขมวดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยก็คงต้องเป็น 3 ปัจจัยเสี่ยง ซึ่งเป็นเสมือน 3 คลื่นพายุที่พร้อมจะซัดความเสี่ยงต่อภาคการส่งออกไทย ปัจจัยแรกอย่างทีเกริ่นไปก่อนหน้านี้ก็คือ Trade War ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งก็ไม่รู้จะมีเงื่อนไขอะไรงอกเพิ่มขึ้นมาอีกหรือไม่จากนี้ไป

“ปัจจัยที่สองคงเป็นเรื่องของค่าเงินบาท ส่วนปัจจัยเสี่ยงตัวสุดท้ายคงเป็นปัญหาความไม่สงบในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองในแต่ละประเทศก็ตามที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ทำให้กำลังซื้อเขาลดลง การเมืองระหว่างประเทศในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ประเทศเหล่านี้เขาก็คาดหวังน่าจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง เพราะราคาน้ำมันปีนี้ก็ปรับตัวดีขึ้นแล้วหลังจากที่ต้องเผชิญปัญหา 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศเหล่านี้ค่อนข้างได้รับผลกระทบอย่างมาก หาก 3 ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้สมูธลงก็น่าจะส่งผลดีเศรษฐกิจโดยรวม และก็จะส่งอานิสงส์มาถึงภาคการส่งไทยให้เติบโตได้ดี “

ภาคการส่งออกถือเป็นเครื่องยนต์ทางธุรกิจสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องทุกปี แต่ทว่า อนาคตส่งออกไทยปีหมูทองท่ามกลางพลวัตสงครามการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจโลก “จีนและอเมริกา” ที่ยังไร้ข้อสรุป รวมถึงปัจจัยเสี่ยงด้านค่าเงินบาทและปัจจัยอ่อนไหวอื่นๆ ยังคงต้องลุ้นตัวโก่งและเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความท้าทายภาคการส่งออกไทย