ขสมก.ขยายผลใช้ B20 ในรถโดยสารทุกคัน หวังช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์ม

0
155

ขสมก. ผนึกปตท.และบริษัทเหมาซ่อมขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 2,075 คัน 2 ระยะ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ดีเดย์ 15 ม.ค.นี้เป็นต้นไป

นายประยูร  ช่วยแก้ว  รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผลผลิตปาล์มล้นตลาด ทำให้มีราคาตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับความเดือดร้อน  กระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคมจึงร่วมกันนำร่องโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในภาคคมนาคมขนส่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดย ขสมก.ได้มีการทดลองใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อฮีโน่  มิตซูบิชิ และอีซูซุ  จำนวน 17 คัน เมื่อช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2561

ซึ่งผลการทดลองพบว่า น้ำมันดีเซล B20 มีอัตราการสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล B7 ที่ ขสมก.ใช้อยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีค่าควันดำอยู่ในเกณฑ์ปกติ และค่ามลพิษ (CO2) ลดลง 15 %  จึงส่งผลทำให้ค่ามลพิษในอากาศภาพรวมลดลงด้วย  ขสมก.จึงขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา และ รถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 2,075 คัน  แบ่งเป็น ระยะที่ 1 ใช้กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อฮีโน่ และมิตซูบิชิ จำนวน 815 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562  ระยะที่ 2 ใช้กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อมิตซูบิชิ และอีซูซุ  รถโดยสารปรับอากาศครีม – น้ำเงิน ยี่ห้ออีซูซุ และฮีโน่ รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ยี่ห้ออีซูซุ เบนซ์ และแดวู จำนวน 1,260 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน ขสมก.มีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล B7  เดือนละประมาณ 5.5 ล้านลิตร หรือปีละ 66 ล้านลิตร เมื่อ ขสมก.เปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซล B20 ซึ่งมีราคาถูกกว่า B7 ลิตรละ3 บาท จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงให้กับ ขสมก. เดือนละ 16.5 ล้านบาท หรือปีละ 198 ล้านบาท  อีกทั้ง ยังช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์ม สามารถนำน้ำมันปาล์มมาใช้ เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันดีเซล B20 ได้ปีละประมาณ 8.58 ล้านลิตร

อย่างไรก็ตามการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสาร ขสมก.ในระยะแรก จะต้องมีการล้างน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งระบบทางเดินน้ำมัน  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมทั้งมีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันดีเซล ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และไส้กรองอากาศ  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคันละประมาณ 30,000 บาท โดย ขสมก.ได้รับความร่วมมือจากบริษัทเหมาซ่อม ได้แก่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด  บริษัท ออโต้เทคนิค (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แสงเจริญทูลส์ เซ็นเตอร์ จำกัด

นอกจากนี้ ขสมก.ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในการจัดหาถังน้ำมัน พร้อมจัดส่งน้ำมันดีเซล B20 ให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละวัน  ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานกระทรวงคมนาคม กรมควบคุมมลพิษ และ ขสมก.คาดหวังว่า การขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารทุกคันจะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์ม  และช่วยสร้างความสุขให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างยั่งยืนต่อไป