SME Development Bank ปลื้มผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ ตอบรับจองสิทธิเข้าร่วมโครงการ “ฮักTAXI” สร้างโอกาสเข้าถึงเงินทุนดอกเบี้ยต่ำในระบบ เพิ่มทักษะความรู้ สวัสดิการยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยเสริมแกร่งการประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Development Bank เปิดเผยว่า จากที่ธนาคาร ร่วมกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทำการสำรวจ “การประเมินศักยภาพธุรกิจท้องถิ่นของประเทศไทย” กรณีศึกษาธุรกิจบริการแท็กซี่ พบว่า ปัจจุบัน มีผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ทั่วประเทศกว่า 1.2 แสนราย และมีรถแท็กซี่ในระบบกว่า 9 หมื่นคัน เป็นรถส่วนบุคคล (เขียว-เหลือง) กว่า 37% โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ถึง 76.69% ทำอาชีพนี้มานาน มากกว่า 6 ปีขึ้นไปถึง 20 ปี อีกทั้ง ยึดอาชีพขับรถแท็กซี่เป็นอาชีพหลักถึง 87.98% นอกจากนั้น ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ยังเป็นคนที่ต้องทำงานหนัก เฉลี่ยขับรถ 25 วันต่อเดือน โดยต้องขับควบกะช่วงเช้า ช่วงเย็น และช่วงกลางคืน เฉลี่ยกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน มีรายได้เฉลี่ยต่อวัน 1,702 บาท แต่เมื่อหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว เหลือรายได้เฉลี่ยเพียงวันละ 400 บาท จึงมีปัญหา ชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย
ผลสำรวจยังชี้ด้วยว่า สัดส่วนรถแท็กซี่ที่ใช้ประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบันเกือบ 50% หรือประมาณ 35,000 คัน เป็นรถที่เหลืออายุการใช้ไม่ถึง 5 ปี ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป รถจะทยอยหมดอายุ ปีละกว่า 10,000 คัน ดังนั้น ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ 70% ต้องการสินเชื่อในระบบเพื่อจะซื้อรถใหม่ เพราะเชื่อว่า จะช่วยเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย คุ้มกว่าการเช่ารถ และสามารถจัดสรรเวลาทำงานได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อไปยังการให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ 65% เข้าไม่ถึงแหล่งทุน จึงต้องหันพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ ส่งผลแบกภาระหนี้สูง เกิดเป็นปัญหาซ้ำซ้อนมากขึ้นไปอีก จนยากจะหลุดพ้นวงจรความยากจนไปได้
ธพว. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย ได้เปิดโครงการ “ฮัก TAXI” เสริมแกร่งแท็กซี่ไทย ช่วยเสริมแกร่งและยกระดับการประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้บริการแท็กซี่จะได้ประโยชน์ เช่น ไม่ถูกปฏิเสธ ไม่ถูกโกงมิเตอร์ ปอลดภัย เป็นต้น
ทั้งนี้ ธนาคารได้เริ่มเปิดให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ แสดงเจตจำนงความต้องการเข้าร่วมโครงการ “ฮัก TAXI” เสริมแกร่งแท็กซี่ไทย ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ซึ่งได้การตอบรับอย่างดียิ่ง เนื่องจากโครงการนี้ผู้ประกอบอาชีพจะได้รับการพัฒนาการประกอบอาชีพแท็กซี่ ควบคู่กับเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตามแนวทางอัตราเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) เงื่อนไขผ่อนปรน ผ่อนถูกกว่าจ่ายค่าเช่ารถ ผู้กู้สามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้ ให้สิทธิ์ 1 คนต่อการกู้ซื้อรถได้ 1 คัน ใช้ บสย.ค้ำประกันได้ทั้งนี้กำหนดวงเงินโครงการรวม 10,000 ล้าน
นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ยังได้รับสวัสดิการยกระดับคุณภาพชีวิต โปรแกรมเสริมแกร่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพการประกอบอาชีพ เช่น ฝึกอบรมทักษะภาษา ระบบประกันสังคม การออมเพื่อประโยชน์ในวัยเกษียณ มีระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น
“อาชีพขับรถแท็กซี่ เกี่ยวโยงกับบุคคลต่างๆ อีกจำนวนมาก ตั้งแต่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านคนต่อวัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย มากกว่า 30 ล้านคนต่อปี ดังนั้น การยกระดับแท็กซี่จะช่วยให้ผู้ประกอบการอาชีพนี้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ไม่เป็นต้องหนี้นอกระบบ ขณะที่ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก ปลอดภัย รวมถึง สร้างภาพลักษณ์ต่อการท่องเที่ยวไทย” นายมงคล กล่าว