“กิจเศรษฐี”…ศิษย์มีครู!

0
676

นิตยสาร Logistics Timeปีที่ 15 ฉบับที่ 170ประจำเดือนธันวาคม2561 : “สิงห์ตะวันเพลิง” ขอรายงานตัวประจำฐานกองบัญชาการข่าวคอลัมน์“เลาะระเบียงขนส่ง” ทำหน้าที่รายงานข่าวเด่น-ดัง-ร้อนในแวดวงสังคมขนส่งไทย พลางหยิกแกมหยอกบรรดาพี่น้องสิงห์รถบรรทุกและผู้ประกอบการขนส่งทั่วฟ้าเมืองไทยอีกแล้วครับกระผม

ท้ายที่สุด…สุดท้ายแล้วก็ก้าวมาถึงเดือนสุดท้ายแห่งปี 61 จนได้ อันเวลาช่างผ่านไปไวเหมือนประพฤติผิดศีลข้อ 4 ซะจริงๆ อารมณ์ความรู้สึกยังเหมือนเพิ่งฉลองปีใหม่ไปเมื่อไม่นานนี่เอง นี่แหล่ะหนาคนโบร่ำโปราณถึงผูกคำกล่าวเตือนคนรุ่นหลังว่า “อันเวลาและวารีไม่เคยรอมนุษย์หน้าไหนแม้กระทั่งตัวของมันเอง” ย้ำเตือนสติให้คนเรารีบเร่งสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัว หากมัวแต่อ้างฝนตกฟ้าร้องแดดออกก็ไม่ต้องทำมาหารับประทานกันพอดี ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย…เดี๋ยวก็มาเสียใจภายหลังจะไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น…เจริญพร!

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปอะไรใหม่ๆก็เข้ามาแทนที่ อะไรที่เคยง่ายในอดีตวันนี้กลับยากเย็นแสนเข็ญ ไม่เว้นแม้แต่วงการขนส่งเมืองไทย ยิ่งเมื่อเข้าถึงยุคโซเชียลยึดครองเมืองมนุษย์เบ็ดเสร็จ หากใครยังหลงลำพองอยู่กับความยิ่งใหญ่ในอดีตแล้วไม่ยอมปรับตัวให้ก้าวทันยุคสมัยนิยมก็มีหวังตกยุคตกขบวนกันพอดี บรรดากิจการร้านค้าที่เคยรุ่งเรืองก็อาจจะรุ่งริ่งในชั่วพริบตาก้อ…อาจ…เป็น…ไป…ได้นะคุณโยม

เมื่อความล้ำสมัยเข้าแทนที่ทำเอาทั้งคน-องค์กรในแวดวงขนส่งตั้งตัวไม่ติดเช่นกัน ผนวกกับพฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนไปผู้ขายก็จำเป็นปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เห็นได้ชัดค่ายรถใหญ่หลายค่ายเล่นเปิดเพจขายรถเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งมันก็เริ่มเห็นเค้าลางๆมาแล้วก่อนหน้านี้ทั้งงานแสดงรถใหญ่ งานประชุมของบรรดาสหพันธ์ฯและสมาคมขนส่งต่างๆบรรยากาศงานนี่ก็ดูเงี๊ยบเงียบ….จนน่าใจหายครับพี่น้อง!

ที่บอกดูเงียบๆเหงาๆก็เพราะบูธน้อยลงคนเข้าร่วมงานก็ร่อยหรอทุกงาน งานที่เคยสนุกสนานคึกครื้นในอดีตบัดนี้ก็ดูจืดชืดไร้มนต์ขลังทิ้งไว้แค่รอยอดีต สิงห์ตะวันเพลิง เรียนตามตรงเคยครื้นเครงงานข่าวกับงานเหล่านี้พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงก็รู้สึกหดหู่ในใจพลางคิดในใจว่าหรือทุกอย่างถึงคราหมดมุขหมดไอเดียหมด Passions กันไปหมดแล้ว? ทิศทางการจัดงานแบบนี้และวิถีงานข่าวของตัวเองด้วยจะปรับเปลี่ยนหรือ…จะปิดฉากลงอย่างไรและเมื่อไหร่? …น่าคิดและสำเหนียกยิ่งนัก?

เก็บตกจากงาน Bus&Truck 2018 ที่เพิ่งปิดฉากลงเมื่อ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา กับบูธของ “เฮียเคี้ยง-ภูกิจ เศรษฐบัณฑัต บิ๊กบอสแห่งกิจเศรษฐี ตัวแทนจำหน่ายทั้งรถใหญ่ฟูโซ่และรถใหญ่เมอร์เซเดส–เบนซ์ ปีนี้เฮียเคี้ยง “ผู้ชาย…ที่ขายความแตกต่าง” ไม่ทำให้ใครผิดหวังอีกเช่นเคย โดยได้นำรถมินิบัสเจ้าดาวสามแฉก รุ่น OF917 ขนาด 8 เมตรมาร่วมประชันโฉมกับเขาด้วย

ไม่ว่าจะบ้านหลังเก่า(ตันจง) หรือหลังใหม่(DCVT)เฮียเคี้ยงแกก็ยังเหมือนเดิม…ยังขายความแตกต่างฉีกม่านการตลาดจากรายอื่นๆเหมือนเดิม ที่ยังเหมือนเดิมและเป็นวิชาอันแก่กล้าที่ได้ร่ำเรียนจากสำนักตันจงก็คือปรากฏการณ์ “แย่งซีน” ชาวบ้านนี่แหล่ะแม้บูธจะดูเล็กแต่แกทำให้ใหญ่และดูดความสนใจจากคนภายในงานได้ก็แล้วกัน เล่นเอาบูธใหญ่ๆพากันมองตาปริบๆ แกย้ำนักย้ำหนา(แบบไม่ต้องเกรงใจบ้านหลังใหม่)ที่ทำได้และกล้าทำก็เพราะได้วิชาดีได้ครูบาอาจารย์ดีจากสำนักเก่าอย่างตันจง…Oops

เฮี้ยเคี้ยงแกเล่นหล่นวาทกรรมมาเช่นนี้ในฐานะ “ศิษย์มีครู” ป่านนี้อาจารย์ใหญ่แห่งเจ้าสำนักตันจงอย่าง”พี่เอ-ธนภัทร อินทะวิพันธุ์” คงนั่งฉันชาเขียวฟองนุ่มละมุนปากพลางยิ้มแก้มแตกพร้อมอุทานดังๆ…!ต้องงี้สิ…ไม่เสียแรงที่ถ่ายทอดวิชาให้ ผ่าม ผ่าม ผ่าม!

บูธเดียวกัน คนนี้ยิ่งโคตรฟินหนักเข้าไปอีก เมื่อคุณรัชกฤช ใช้ไม่หมด แหม…แค่ได้ยินนามสกุลก็ต้องหูผื่งแหละครับพี่น้อง ท่านพ่อเลี้ยงรัชกฤชแกเป็นเจ้าของกิจการให้บริการรถเช่าในนาม หจก.จงเจริญทัวร์เชียงใหม่ แกสั่งซื้อแชสซีส์เบนซ์2 คันพร้อมให้กิจเศรษฐีฯประกอบตัวถังและตกแต่งให้เสร็จสรรพ ซึ่งก็เป็นคนที่กิจเศรษฐีฯนำมาโชว์นันแหล่ะ

ที่บอกโคตรฟินนาเร่ก็เพราะแกไม่ได้จ่ายเงินค่าร่วมออกบูธแม้แต่บาทเดียว มาตัวเปล่าๆแถมได้ประชาสัมพันธ์จงเจริญทัวร์เฉยเลย อ้าว…พูดเยี่ยงนี้ TTF เจ้าพ่อผู้จัดงานโชว์รถใหญ่เมืองไทยอย่าง Bus&Truck ทราบแล้วเปลี่ยน…อย่ารอช้ารีบวางบิลค่าแฝงร่วมออกบูธโดยไม่เจตนาตามหลังท่านพ่อเลี้ยงไปที่เมืองเชียงใหม่เจ๊าได้เลยครับ …อย่าปล่อยให้คนแอบแฝงลอยนวล ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

ขณะที่ความเคลื่อนไหวแวดวงรถใหญ่จากจีนแผ่นดินใหญ่ ตอนนี้ที่ชัดเจนต่อการเปิดศีกการทำตลาดในเมืองไทยก็มียี่ห้อโฟตอนนี่แหล่ะ โดยคุณเควิน ได ก่อนจะไปรับตำแหน่งประธานกรรมการโฟตอนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคเต็มตัว ก็ได้ฝากกลยุทธ์การตลาดเป็นการบ้านสุดหินให้กับประธานฯโฟตอนคนใหม่อย่างคุณกาว หมิง ได้รับไม้ต่อสู้ศึกตลาดรถใหญ่เมืองไทยทั้งการวางไทยเป็น “จุดศูนย์กลางตลาดเอเชียแปซิฟิค” กลยุทธ์การพลิกฟื้นความเชื่อมั่นต่อแบรนด์จีนพร้อมเข้าไปนั่งกลางบัลลังก์ใจผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยให้จงได้

ถือเป็นการบ้านและเป็นโจทย์ที่ใหญ่และท้าทายอย่างมากสำหรับคุณกาว หมิง ยังต้องพิสูจน์ความเป็นยี่ห้อจีนที่บริษัทแม่ข้ามน้ำข้ามทะเลทุ่มทุนเองกับมือ ต้องเดินเครื่องเต็มสูบอย่างทะลุทะลุกลางลำกล้องผู้ประกอบการขนส่งให้จงได้ กับเป้าหมายมีไว้พุ่งชนที่ตั้งเอาไว้ปีหน้า 1 พันคัน,เบอร์หนึ่งแบรนด์จีนในไทย ที่หินไปกว่านั้น อีก 3 ปีข้างหน้า โฟตอนจะทะยานติด1ใน3 ตลาดรถใหญ่เมืองไทย …เป็นอะไรที่หินมากๆ

คงไม่ต้องหาญกล้าจะโค่น 2 ค่ายมหาอำนาจอย่างพี่ใหญ่อีซูซุ และฮีโน่ ตั้งธงอันดับ 3 ที่ตอนนี้ค่ายยูดี ทรัคส์ ตีตราจองอยู่ เทียบบัญญัติยางค์ง่ายๆหากโฟตอนจะยึดเบอร์ 3 ต้องขายให้ได้มากกว่า 1 พันคันขึ้นไปถึงจะมีสิทธิ์ กับยอดขายปัจจุบันที่ยังไม่ถึง 300 คัน อีก 5 ปีข้างหน้าจะกระโดดถึง 1 พันคันหรือ? ยากมากๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่เป็นไปไม่ได้

เรื่องเล่าเม้าท์มีเยอะ แต่พื้นที่มีน้อยนิดเจอกันฉบับหน้าครับ!