สัญญาต่อหน้าไฟว่าจะไม่ปากสุนัขเห่าหอนตอนเลยเดือนเก้าแล้วย่างเข้าสู่ห้วงความสุขของมวลมนุษย์ช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่พอเหลือบเห็นข่าว ขสมก. ตีฆ้องร้องป่าวพลางยิ้มแก้มแตก หลังศาลปกครองกลางได้เพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องของ บจก.สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนมติบอร์ด ขสมก. ที่เห็นชอบให้ลงนามสัญญาซื้อ-ขายรถโดยสารประจำทางรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน พร้อมได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเนื่องจากผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย
เลยอดรนไม่ไหวต้องทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” ทิ้งทวนปี 61 ที่จะกลายเป็นปีเก่าชั่วพริบตาอีกไม่กี่วันข้างหน้า!
คำสั่งของศาลดังกล่าวเหมือนเป็นการปลุก ขสมก.ได้ตื่นจากภวังค์หลังต้องเข้าถ้ำจำศีลนานร่วมครึ่งปีได้ทีเดินหน้า (อีกครั้ง) กับมหากาพย์เมล์ NGV ที่ก่อนหน้านี้ขสมก.ได้ทำการตรวจรับส่งมอบได้แค่หยิบมือ 100 คันจากกลุ่ม SCN-CHO หรือบมจ. สแกน อินเตอร์ (SCN) กับบมจ.ช ทวี (CHO)
แต่มิวายยังต้องเผชิญวิบากกรรมซ้ำซากนำมาซึ่งการระงับการส่งมอบ 389 คันที่เหลือ จนกระทั่งศาลปกครองกลางได้เพิกถอนคำสั่งรับฟ้องฯ ดังกล่าว เปิดทางสะดวกโยธินให้ ขสมก. เดินหน้าต่อไปได้
ตามไทม์ไลน์ กลุ่ม SCN-CHO จะเร่งเครื่องส่งมอบรถอีก 389 คันให้กับขสมก. ที่ล่าช้าตั้งแต่เดือน มิ.ย.61 โดยตอนนี้ SCN-CHO มีรถเมล์เอ็นจีวีที่พร้อมส่งให้กับ ขสมก. จำนวน 202 คัน ซึ่ง ขสมก. ประกาศก้องจะรับมอบได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมหล่นวาทกรรมเพื่อเป็น “ของขวัญปีใหม่” ให้กับพี่น้องคนกรุงใช้บริการรถใหม่
เป็นการย้ำเป็นของขวัญปีใหม่ (อีกครั้ง) หลังปีที่แล้วนายกฯ ลุงตู่ ก็เสียผู้เสียคนกับวาทกรรมสุดคลาสสิคนี้แหล่ะ!
ส่วนล็อตสุดท้ายมีอีก 187 คัน ยังอยู่ในขั้นตอนการประกอบที่ประเทศจีน คาดจะนำมาบริการได้ช่วงเดือนกุมภาปีหน้า พร้อมกันนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์อยู่ที่ขสมก. ประกาศก้องปฐมีว่าจะเดินหน้าฟ้องกลับ “สยามสแตนเดาร์ดฯ” อ้างเป็นเหตุให้ ขสมก. รับรถเมล์ที่เหลือล่าช้าออกไปโดยเรียกค่าเสียหายกราวรูดชนิดสุดซอย 571 ล้านบาท
ก็ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ขสมก.จะอาจหาญกล้าใส่เกียร์ห้าเต็มสูบเพื่อฟ้องกลับกับ “สยามสแตนเดาร์ดฯ” เรียกเงินค่าเสียหายได้สักกี่บาท?
เพราะไอ้โครงการสุดอัปยศนี้ที่มันวุ่นวายขายปลาช่อนทิ้งไว้เป็นเรื่องอุจจาระปากของคนรุ่นหลัง กลายเป็นมหากาพย์เมล์ NGV ที่ถูกปู้ยี่ปู้ยำหนำใจพระเดชพระคุณท่านจนเละตุ้มเปะมาแล้ว 7 รัฐบาล สิริอายุ 12 ปีอันสุดขมขื่นที่ประชาชนคนกรุงหาวเรอรอแล้วรอเล่า จนบางคนเลิกสนใจกับโครงการสุดพิลึกนี้ไปแล้ว
แม้มหากาพย์เมล์ NGV นี้จะถูกปิดฉากลงในยุครัฐบาลคสช.แต่ก้าวต่อไปกับพัฒนา-ปฏิรูปขสมก.จะเดินหน้าไปอย่างไรไม่ใ่ห้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ ขณะที่โครงการฯต่อเหนื่อกับส่วนที่เหลืออีก 2,694 คัน ที่รัฐย้ำจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะซื้อรถเมล์ NGV ต่อไป หรือรถเมล์ไฟฟ้า นึกแล้วเหนื่อยและหนักใจแทนเหลือเกิน ลำพัง 489 คันยังถูกกระทำชำเราสาหัสสากรรจ์จนลืมเลขที่บ้านได้ขนาดนี้
เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องสำเหนียก สังวรณ์ และจำเอาไว้ให้เป็นบทเรียนราคาแสนแพง กับห้วงเวลา 12 ปีประเทศชาติ-ประชาชนสูญเสียอะไรไปบ้างกับโครงการสุดพิศดารนี้?
อย่าให้เป็นแค่ลมพัดผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านแล้วผ่านเลยเหมือนผายลมทิ้งไปวันๆมิเช่นนั้นมันจะเข้าทำนอง “เจ็บแล้วไม่จำ”
จริงหรือไม่จริงครับ… ขสมก.?
:ปิศาจขนส่ง
