กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกและวัตถุอันตราย เลี่ยงขนส่งสินค้าและงดใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้าช่วงเทศกาลลอยกระทง 61 ระหว่าง 21 – 23 พ.ย.61 เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชน
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมฯเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นเทศกาลที่ประชาชนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่สำคัญต่างๆ ส่งผลให้มีปริมาณการจราจรที่หนาแน่นและยังมีความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ กรมฯจึงขอความร่วมมือสหพันธ์ สมาคม ชมรม และผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกจำนวน 15 แห่ง หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและวัตถุอันตรายและงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเที่ยวเปล่า) ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2561 เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรและยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางหรือช่วงเวลาที่มีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก และต้องกำชับผู้ขับรถให้ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของอุปกรณ์ส่วนควบก่อนใช้งานทุกครั้ง สำหรับรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ไว้กับตัวรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากความบกพร่องของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบของรถ คนขับรถต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ขับรถอย่างปลอดภัย มีใบอนุญาตขับรถตรงตามประเภท มีชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด และต้องไร้สารเสพติด แอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 อย่างเคร่งครัด รวมถึงการควบคุม กำกับ ดูแลการทำงานผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ในการติดตามการใช้รถอย่างต่อเนื่อง หากพบการใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ สามารถแจ้งผู้ประกอบการขนส่งและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าตรวจสอบและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯยังได้กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดเตรียมเครื่องหมายหรือสัญญาณสำหรับแสดงเมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทางไว้ประจำรถเป็นหนึ่งในมาตรฐานเพื่อการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนจากด้านหลังรถบรรทุกที่จอดฉุกเฉินในทางหรือไหล่ทาง โดยวางเครื่องหมายหรือสัญญาณในระยะห่างจากรถไม่น้อยกว่า 50 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเตือนให้ผู้ใช้รถอื่นสังเกตเห็นและหลีกเลี่ยงหรือหยุดรถได้อย่างปลอดภัย และให้รีบดำเนินการแก้ไขเคลื่อนย้ายรถออกจากทางเดินรถหรือไหล่ทางโดยเร็ว ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขนส่งไม่จัดเตรียมเครื่องหมายไว้ประจำรถตามที่กำหนด มีความผิดตามกฎหมายฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ.2558 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนกรณีผู้ขับรถละเลยไม่แสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณเมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับรถและผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด