กิจเศรษฐีฯ ดีลเลอร์ฟูโซ่เมืองขุนแผน “ขายความต่าง”…อย่างมีสไตล์!

0
1145

จากจุดเริ่มต้นอู่ซ่อมตัวถังรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ก่อร่างสร้างตัวเสมือนนกน้อยสร้างรังแต่พอตัว ผู้ให้บริการเช่ารถโดยสารไม่ประจำทาง สยายปีกเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกฟูโซ่ แตกลายขยายธุรกิจเป็นตัวแทนขายอะไหล่ให้กับวิริยะประกันภัยและกรุงเทพประกันภัย เป็นตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รถทุกยี่ห้อของกลุ่มตันจง คงเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการขับเคลื่อนธุรกิจ พิชิตเป้าหมาย“ขายความแตกต่าง”อย่างมีสไตล์ สร้างจุดเด่นและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วยความซื้อสัตย์ จริงใจ บริการด้วยน้ำใจ ทั้งงานซ่อม งานซื้อ-ขาย งานต่อตัวถังการันตีคุณภาพและมาตรฐานที่เชื่อถือได้ แต่ราคาโคตรโดนใจ  

ยิ่งครบเครื่องต้มยำในทุกมิติ เมื่อบรรดาทายาทที่ได้โบยบินออกจากอ้อมอกผู้บังเกิดเกล้าไปฝึกปรือวิทยายุทธ์ในศาสตร์วิชา เริ่มโผผินบินกลับรังหวังสานต่อธุรกิจครอบครัวให้เติบโตก้าวไกลอย่างมั่นคง กลายเป็น “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”ปักธงผสมผสานองค์ความรู้คนรุ่นใหม่ให้กลมกลืนไฉไลกับ “กึ๋นรุ่นลายคราม” หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในการมุ่งมั่นพัฒนาในทุกมิติให้กิจเศรษฐีฯก้าวไกลอย่างมีศักยภาพเพื่อธุรกิจที่ไร้ขีดจำกัด

img_1388

สร้างเอกลักษณ์ ขายความแตกต่าง

ทั้งนี้ “เฮียเคี้ยง-ภูกิจ  เศรษฐบัณฑัต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กิจเศรษฐี อะไหล่ยนต์ จำกัด ได้สะท้อนมุมมองและแนวคิดการทำธุรกิจด้วยสำเนียงเหน่อ(นิดๆ)แบบฉบับคนสุพรรณฯว่าจากจุดเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจมาจนขณะนี้ เรายังรุกคืบพัฒนาองค์กรในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการด้านงานขาย บริการ อะไหล่ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและหลากหลายเติมเต็มศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อก้าวขึ้นเป็นดีลเลอร์ระดับผู้นำ และเพื่อรองรับกับการเป็นแบรนด์ใหญ่ แต่นั่นเราก็จะค่อยพัฒนาเป็นแนวขั้นบันได

“ทุกก้าวย่างการขับเคลื่อนต้องสอดแทรกเอกลักษณ์ของเราคู่ขนานกันไป จากนั้นค่อยนำความเป็นตัวตนของเราออกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ก ยูทูบ หรือไม่ก็ตามงานแสดงสินค้าในพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งเรายังได้แต่งเพลงขึ้นมา4 บทเพลง ซึ่งเนื้อหาของเพลงได้สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของเราได้อย่างครบถ้วน หากเราได้มีโอกาสไปร่วมงานและออกงานที่ไหนก็ตาม เราก็จะเปิดเพลงเหล่านี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ของเราไปในตัว ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้ดีลเลอร์อื่นเขาไม่มีและไม่ทำกัน แต่เรามีและทำขึ้นเพื่อเป็นเสมือนการสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร และเพื่อสร้างความแตกต่างที่หลากหลาย จนเป็นที่มาของการขาย “ความต่าง”ที่สร้างสรรค์อย่างมีสไตล์”

ส่วนศรีภรรยาสุดเลิฟคู่บุญบารมี อย่าง “เจ๊วรรณ-ชลิดา  เศรษฐบัณฑัต”กรรมการผู้จัดการบอกเล่าเทคนิคการขายสไตล์เจ๊วรรณว่าเทคนิคการขายและบริการที่สามารถมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด อันดับแรกเลยลูกค้าที่เข้ามาเรา เราต้องมีและแสดงมนุษย์สัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับลูกค้าทุกคน เจ๊จะบอกพนักงานทุกคนเลย ไม่ว่าลูกค้าคนนั้นจะใส่รองเท้าแตะ ใส่หมวกใส่งอก หรือย่างกรายเข้ามาบริษัทเราในสภาพไหนก็ตาม ถ้าไม่เจ๋งจริงเขาไม่เดินเข้ามาหรอก เราต้องให้เกียรติเขา ลูกค้าเดินเข้าซื้อรถราคา 3 ล้าน นี่ไม่ใช่ขี้ไก่นะ เชิญเขามานั่งแล้วหาน้ำหาท่าหาขนมนมเนยมาต้อนรับ และพูดคุยด้วยความเป็นมิตรไมตรีจิต อย่าไม่ไปอคติกับเขาเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอก เพราะเราเคยมาหลายเคสแล้ว ภาพลักษณ์ภายนอกเหมือนเดินขึ้นจากท้องไร่ท้องนาอะไรอย่างนั้น แต่พอเอาจริงๆ เขาซื้อเงินสดเลย ดังนั้น เราจะไม่ตัดสินใจคนแค่รูปลักษณ์ภายนอก ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา เราขายรถไป 39 คัน และมียอดจองจากงานฟูโซ่คาราวานโร้ดโชว์อีก 22 คันกับอีก 5 พ่วง และไตรมาสสุดท้ายของปีก็น่าจะเป็นห้วงเวลาที่ท้าทายของเราเช่นเดียวกัน

พลังคลื่นลูกใหม่ ต่อยอดธุรกิจไร้ขีดจำกัด

ขณะที่“น้องแคท-ชลากร  เศรษฐบัณฑัต”รองกรรมการผู้จัดการ ลูกสาวคนโตสุดห้าวเป้งดีกรีปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมหิดล(อินเตอร์ฯ)ดูแลงานด้านภาพรวมของบริษัท และถูกจับเป็นวางให้เป็นมือขวาเฮียเคี้ยง ได้สะท้อนถึงดีเอ็นเอต่อการสืบทอดธุรกิจครอบครัวว่าหลังจบจากมหิดลแล้วก็กลับมาช่วยงานครอบครัว ด้วยความที่เป็นเด็กอินเตอร์หัวทองร้อนวิชาสุดเหวี่ยงก่อนหน้าจะเป็นตัวแทนฟูโซ่ยังเป็นอู่ต่อตัวถัง ซึ่งยังไม่มีมาตรฐานอะไรเลยแต่หนูอยากทำโน้นทำนี่ให้มีมาตรฐาน ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณบริษัทแม่อย่างฟูโซ่ทรัคประเทศไทย ที่ช่วยเทรนด์ทุกองค์ความรู้ด้านการบริการจัดการอย่างมีระบบและเป็นมืออาชีพให้กับหนู

“ส่วนงานรับผิดชอบก็จะดูภาพรวมช่วยคุณพ่อ และโฟกัสงานด้านขายอะไหล่แท้ฟูโซ่ทั่วประเทศให้กับวิริยะประกันภัยและกรุงเทพประกันภัย ด้วยความที่เราเป็นเด็กอินเตอร์ก็ยังมีแนวคิดการทำงานที่สวนทางกับแนวคิดของคุณพ่อบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเรียนรู้และปรับแนวคิดเข้ากันหากันในจุดที่ลงตัว และระยะหลังเราได้ไปเข้าไปเรียนป.โทที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์สุพรรณฯ และได้เข้าไปมีบทบาทกับหอการค้าสุพรรณฯในฐานะกรรมการแทนคุณพ่อ ก็ได้พบปะและเรียนรู้ผู้คนหลากหลายอาชีพในระดับอายุไล่เลี่ยกัน ซึ่งจะนำไปฐานลูกค้าและต่อยอดธุรกิจครอบครัวในเจนเนอเรชั่นของหนูในลำดับต่อไป”

ฟากฝั่ง“น้องโค๊ก-เดชาธร เศรษฐบัณฑัต”รองกรรมการผู้จัดการ รับหน้าเป็นมือขวาด้านงานขาย ที่ช่วยแบ่งเบาหน้าที่รับผิดชอบจากเจ๊วรรณ และเป็นความหวังในอันที่จะปั้นเป็น“นักขายมือทอง”สืบทอดคุณแม่ในอนาคต เปิดเผยมุมมองว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำมาเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ส่วนที่เรามองว่าไม่ดีก็ต้องนำมาปรับปรุงและแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนไหนที่เราสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้ ผมก็จะทำต่อได้ทันที หน้าที่รับผิดชอบตอนนี้จะดูด้านการเงินและการตลาด โดยเฉพาะงานด้านตลาดเพื่อช่วยงานคุณแม่อีกแรงโดยผมจะทำแผนงานด้านการตลาดอย่างเป็นระบบ เพื่อง่ายต่อการเดินหน้าในแต่ละเดือนแต่ละไตรมาส ที่ผมเน้นอีกเรื่องก็คือเรื่องของการลดต้นทุน หากสามารถลดต้นทุนได้ นั่นหมายความว่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ และลูกค้าไปในตัวอีกด้วย ส่วนเทคนิคด้านขายก็ต้องเรียนรู้จากคุณแม่อีกเยอะ

ทุกย่างก้าวของกิจเศรษฐีฯในวันนี้ เป็นแรงส่งให้ดีลเลอร์ฟูโซ่เมืองขุนแผนแห่งนี้ ได้ผงาดเป็นดีลเลอร์ฟูโซ่ระดับแถวหน้าอย่างไร้ข้อกังขา  และยิ่งแซ่บซ่าส์ถึงใจในทุกมิติเมื่อได้พลังหนุนจากบรรดาคลื่นลูกใหม่ ในฐานะผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัว เริ่มฉายแววความเป็นผู้บริการรุ่นใหม่ ทำให้กิจเศรษฐีฯยิ่งจะกลายเป็น “ดาวจรัสแสง” ส่องประกายเรืองรองประดับวงการสิบล้อต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง