ขสมก.ขู่ฟ้องกลับ ‘สยามแสตนดาร์ดฯ’ปมเมล์ NGV เรียกค่าเสียหาย 571 ล้าน

0
199

หลังศาลปกครองกลางได้เพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องของบจก.สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนมติบอร์ดขสมก.ที่เห็นชอบให้ลงนามสัญญาซื้อ-ขายรถโดยสารประจำทางรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาท และระงับการดำเนินการใดๆ ตามสัญญาดังกล่าว เนื่องจากมติบอร์ด ขสมก.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเนื่องจากผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย

ล่าสุด ขสมก.เตรียมฟ้องกลับ “สยามสแตนเดาร์ดฯ”อ้างเป็นเหตุให้ขสมก.รับรถเมล์ที่เหลือล่าช้าออกไป เรียกค่าเสียหาย 571 ล้านบาท โดยนายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์กร รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขันตอนต่อไปซจะเร่งจ่ายเงินค่าซื้อรถ 380 ล้านบาทและค่าซ่อมบำรุงอีก 7 เดือนเป็นวงเงินกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ขสมก.จะเร่งดำเนินการให้กับเอกชนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ส่วนรถที่ไม่ได้ส่งมอบอีก 389 คันนั้นจะขยายเวลาการส่งมอบรถจากเดือน มิ.ย. 2561 เพราะการส่งมอบรถล่าช้าเกิดจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ใช่ความผิดเอกชน ส่วนจะขยายเวลาไปเท่าไหร่ต้องพิจารณาอีกครั้ง

นายประยูร ระบุอีกว่าตอนนี้มีรถเมล์ เอ็นจีวี (NGV) ที่ ขสมก.พร้อมรับมอบในล็อตแรก จำนวน 202 คัน คาดว่าน่าจะรับมอบได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนล็อตที่สองมีจำนวน 187 คัน ยังอยู่ในขั้นตอนการประกอบที่ประเทศจีน เนื่องเกิดความล้าช้าจากการที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง แต่คาดว่าจะนำมาบริการได้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า หลังจากก่อนหน้านี้ ขสมก. ได้รับมอบรถเมล์ เอ็นจีวี จากกลุ่ม บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่สัญญามาใช้วิ่งบริการแล้วจำนวน 100 คัน และชำระเงินในการจัดซื้อรถเมล์กับคู่สัญญาแล้วกว่า 400 ล้านบาท

ส่วนการฟ้องกลับบริษัทดังกล่าวนั้น นายประยูร เปิดเผยว่ากรณีนี้ได้ส่งผลให้ขสมก.เสียหาย เพราะทำให้การรับรถเมล์เอ็นจีวีล่าช้าออกไปทำให้ขสมก.สูญเสียรายได้ โดย ขสมก.ไม่สามารถรับมอบรถใหม่จำนวน 389 คันเป็นเวลา 7 เดือน ตามปกติรถเมล์ 1 คันจะทำรายได้ให้ 7,000 บาทต่อวัน เท่ากับว่าที่ผ่านมา ขสมก. ต้องสูญเสียรายได้ไปจำนวน 571 ล้านบาท ขณะนี้จึงให้ฝ่ายกฎหมาย ขสมก. ตรวจสอบรายละเอียดว่า จะสามารถฟ้องกลับบริษัทดังกล่าวฐานทำให้องค์กรได้รับความเสียหายได้หรือไม่