บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ขับเคลื่อนการพัฒนาให้เกษตรกรในระบบคอนแทร็คฟาร์ม ดูแลแรงงานในฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อตามมาตรฐานสากลอย่างจริงจัง ร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนงานที่ทำงานในฟาร์ม และยกระดับมาตรฐานสินค้าไก่เนื้อไทยให้เป็นที่ยอมรับด้านการปฏิบัติที่ดีต่อแรงงานตามหลักมนุษยธรรมในระดับสากล
นายปริโสทัต ปุณณภุม รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายใน การสนับสนุนเกษตรกรคอนแทร็คฟาร์มนำแนวปฏิบัติที่ดีต่อแรงงานในฟาร์มสัตว์ปีก หรือ Good Labour Practices – Poultry Thailand (GLP- Poultry Thailand) ไปประยุกต์ใช้ตั้งแต่ปี 2560 และในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดตั้งทีมงานตรวจติดตามภายในที่ผ่านการอบรมจากสำนักพัฒนามาตรฐานแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าตรวจประเมินและช่วยให้คำแนะนำแก่เกษตรกรเจ้าของฟาร์มที่อยู่ในระบบคอนแทร็คฟาร์มซีพีเอฟ เพื่อให้มั่นใจว่าเกษตรกรมีความเข้าใจและดูแลแรงงานในฟาร์มของตนเองถูกต้องสอดคล้องกับประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้บรรจุหลัก GLP อยู่ในมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มไก่เนื้อ (Good Agriculture Practices for broiler farms: GAP) ด้วย
“ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานตรวจติดตามการประยุกต์ใช้ GLP ของบริษัทฯ เข้าตรวจประเมินฟาร์มไก่เนื้อของเกษตรกรคอนแทร็คฟาร์มทั่วประเทศไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ซึ่งส่วนใหญ่มีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามหลัก GLP ได้อย่างถูกต้อง และพร้อมส่งเสริมเกษตรกรเจ้าของฟาร์มที่มีศักยภาพสมัครขอรับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยจากกระทรวงแรงงานต่อไป” นายปริโสทัต กล่าว
การได้รับรองมาตรฐานแรงงานไทย หรือ มรท.8001-2010 (Thailand Labour Standard : TLS 8001-2010) จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จะช่วยให้เกษตรกรมีการจัดทำระบบด้านแรงงานในฟาร์มเป็นลายลักษณ์อักษร โดยอ้างอิงมาตรฐานสากล มีหลักฐานในการแสดง และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของฟาร์ม ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับแรงงาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศมีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
นายปริโสทัต กล่าวต่ออีกว่า ซีพีเอฟ ยังมีเป้าหมายในการนำฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ เข้าสู่การรับรองมาตรฐานแรงงานไทยตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งปัจจุบัน ฟาร์มไก่เนื้อของบริษัท 76 แห่งจากทั้งหมด 100 ฟาร์มได้รับรองมาตรฐานแรงงานไทยขั้นสมบูรณ์แล้ว ตั้งเป้าว่าฟาร์มของบริษัทฯ ที่เหลืออีก 24 แห่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจขอรับรองมาตรฐานแรงงานไทยจะสามารถได้รับการรับรองมาตรฐาน ในไตรมาส 1 ปี 2562 ทั้งหมด
นอกจากนี้ ซีพีเอฟมีแผนที่จะขยายผลถ่ายทอดความสำเร็จแนวการปฏิบัติที่ดีต่อแรงงานในฟาร์มสัตว์ปีกไปยังกิจการในต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั่วโลกถึงกระบวนการผลิตเนื้อไก่ของซีพีเอฟดูแลจัดการแรงงานได้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลก