นักขับ น นน (ประเทศไทย) คว้าชัย ‘สุดยอดนักขับยูดีทรัคส์’ พร้อมลิ่วชิงแชมป์โลกที่ญี่ปุ่น

0
389

ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับกิจกรรมแข่งขันประลองทักษะขับรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ กับรายการ UD Trucks Extra Mile Challenge 2018 ชิงเงินรางวัลกว่า 4 แสนบาท พร้อมคว้าตั๋วเป็นตัวแทนประเทศไทยบินลัดฟ้าเข้าร่วมชิงแชมป์โลก ณ แดนซามูไร หลังได้คิวโซโล่รอบชิงชนะเลิศประเทศไทย ณ โรงเรียนสอนขับรถ ไอดีไดรฟเวอร์ สาขาแก่งคอย เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผลจากการประลองทักษะขับรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ของ 40 นักขับสุดท้ายผ่านฐานทดสอบต่างๆ นักขับที่คว้าชัยตำแหน่ง สุดยอดนักขับตัวแทนยูดีทรัคส์ประเทศไทย พร้อมรางวัลมูลค่า 3 แสนบาทไปครอง ได้แก่ คุณมานะชัย บุญศิลป์ จาก บจก.น นน (ประเทศไทย) พร้อมได้สิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทยเหินฟ้าร่วมชิงชัยแชมป์โลกต่อ ณ สำนักงานใหญ่ยูดี ทรัคส์ เมืองอะเกโอะ ประเทศญี่ปุ่น 24 – 25 ตุลาที่จะถึงนี้

ส่วนคุณชาน ฤทธิไทสงค์ จาก หจก. .สง่าขนส่ง คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 พร้อมรางวัลมูลค่า 7 หมื่นบาท ขณะที่คุณณัฐวุฒิ พุทธวงศ์ จาก บจก. นิ่มซี่เส็ง 1988 คว้าตำแหน่งชนะเลิศอันดับ 2 พร้อมรางวัลมูลค่า 4 หมื่นบาท

 

เฟ้นนักขับสอดรับ Smart Logistics

คุณกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าการแข่งขัน UD Extra Mile Challenge นี้ เป็นการแข่งขันเพื่อค้นหา Ultimate Drivers หรือสุดยอดนักขับ ที่สามารถทำงานขนสินค้าจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้สมบูรณ์แบบที่สุดในระยะเวลาเหมาะสม ดังนั้น เราจึงมีกฎกติกาพุ่งไปที่ขั้นตอนการทำงานขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับการทำงานจริงที่พนักงานขับรถจะต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวรถและสินค้าที่ขนส่งไปถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

“การแข่งขันครั้งนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราต้องการพัฒนาธุรกิจขนส่งให้เป็น Smart Logistics ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีในตัวรถ บวกกับคุณภาพรถที่ดีแล้ว คนขับรถถือเป็นฮีโร่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจสมาร์ท โลจิสติกส์ เพื่อให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าในสภาพการแข่งขันในธุรกิจขนส่งที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ”

 

ประสบการณ์การทำงานจริงหนุนเส้นทางแชมป์เป็นจริง

ขณะที่คุณมานะชัย บุญศิลป์ นับขับจากบจก.น นน (ประเทศไทย) ผู้ชนะชัยรายการนี้ เผยความรู้สึกและเทคนิคการขับจนสามารถคว้าชัยชนะครั้งนี้ว่าอันดับแรกต้องนำประสบการณ์จากการทำงานจริงมาใช้ในสนามแข่งขัน เพราะรายการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้เน้นไปที่การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว แต่เน้นในเรื่องประสิทธิภาพการขนส่งภายในเวลาที่จำกัด รวมไปถึงความปลอดภัยของสินค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานขนส่งในทุกวันนี้

“ปีที่แล้ว ผมมาสังเกตการณ์ในสนามแข่งขันและมาเชียร์คุณพ่อผมที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนั้น มาในปีนี้ผมบอกตามตรงว่าไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชนะ แต่พ่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์แข่งขันเมื่อปีที่แล้วว่าจะต้องเน้นการนำประสบการณ์ทำงานจริงมาใช้ในสนามแข่ง ซึ่งหมายความว่าทำงานอย่างไร ก็ให้เอามาใช้ในสนามแข่งอย่างนั้นเพราะสนามนี้เน้นการใช้งานจริง”

ย้ำ ยูดี ทรัคส์ “กำลังแรง-อัตราเร่งไม่ตก”

นอกจากนี้ แชมป์ตัวแทนประเทศไทยรายล่าสุดนี้ ระบุอีกว่าตนเป็นผู้เข้าร่วมแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดในสนามนี้ ด้วยอายุอานามเพียง 26 ปี และมีประสบการณ์ขับรถบรรทุกเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตนมีโอกาสขับรถบรรทุกญี่ปุ่นมาหลายยี่ห้อ และล่าสุด เป็นพนักงานขับรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ ขนส่งปูนซิเมนต์ข้ามพรมแดนไทยไปยังหลวงพระบาง สปป.ลาว ซึ่งเส้นทางเป็นทางขึ้นและลงเขาที่คดเคี้ยวตลอดระยะทางไปยังหลวงพระบาง

“ผมบอกได้เลยครับว่ายูดี ทรัคส์ เป็นรถที่สุดยอดเมื่อเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ผมได้ขับมา ด้วยกำลังที่แรงและอัตราเร่งที่ไม่ตก ทำให้การขึ้นลงเขาที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทางเป็นเรื่องง่าย ซึ่งความรู้สึกนี้เหมือนกับผมกำลังขับรถญี่ปุ่นที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถยุโรปเลย จึงทำให้ผมสามารถผ่านมาได้อย่างปลอดภัย และแน่นอนครับ ผมทำเพียงอย่างเดียวคือไม่ประมาท ผมก็สามารถทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เพราะตัวรถทำให้ผมสามารถสร้างผลงานให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี”

ติวเข้มมากขึ้นก่อนหินฟ้าร่วมชิงแชมป์โลกที่ญี่ปุ่น

อย่างไรก็ดี คุณมานะชัย กล่าวในตอนท้ายว่านับจากวันนี้ไปจนถึงวันแข่งขันรอบแชมป์โลก UD Extra Mile Challenge ที่สนามประเทศญี่ปุ่นตนจะมุ่งฝึกซ้อมให้มากขึ้น เพราะสนามนี้ถือเป็นสุดยอดของขุนพลนักขับรถบรรทุกทั่วโลกที่จะมารวมตัวกันเพื่อคัดเลือกเพียงคนเดียวที่เป็นแชมป์โลก ซึ่งทางยูดี ทรัคส์ (ประเทศไทย) จะทำการฝึกสอนเพิ่มเติมพร้อมแนะนำเทคนิคการขับเพื่อคว้าชัยในสนามสุดท้ายให้ได้

“การได้เข้าไปรอบสุดท้าย ทำให้ผมต้องฝึกหนักขึ้นและนี่คือประโยชน์ที่ผมไม่สามารถหาได้จากไหนอีกแล้วที่จะมีคนมาสอนผมและฝึกผมให้เกิดทักษะความชำนาญในการทำงานในหน้าที่นี้ ผมดีใจมากกับสิ่งที่ผมได้รับในการเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ครับ”

ต้องยอมรับแม้อาชีพหลังพวงมาลัยจะถูกยกให้เป็น “ฮีโร่ธุรกิจขนส่ง”ในสายตาของใครบางคนก็ตาม ขณะที่ก้นบึ้งหัวใจของตัวคนขับเองอาจเป็นได้แค่ “ผู้ปิดทองหลังพระ”ความสำเร็จของธุรกิจก็เป็นไปได้ ทว่า ท่ามกลางการแข่งขันธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ที่ดุเดือดมากขึ้นทุกขณะ ผู้ประกอบการขนส่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มองค์ความรู้และทักษะการขับรถที่ดีให้กับพนักงานขับรถ เพื่อเติมเต็มศักยภาพงานขนส่งจากต้นทางไปถึงปลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กิจกรรมแข่งขันประลองทักษะขับรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ กับรายการ UD Trucks Extra Mile Challenge ที่จัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่2 แล้ว ถือเป็นเวทีติวเข้มและเติมเต็มทักษะการขับที่ดีให้กับนักขับที่เข้าร่วมโม่ฝีมือ นอกจากจะได้สุดยอดนักขับประจำรายการนี้แล้ว ยังเป็นการส่งต่อบุคลากรในอาชีพหลังพวงมาลัยที่สุดยอดกลับไปสร้างงาน-อาชีพ-ผลกำไรให้กับองค์กรของตัวเองได้อย่างตรงจุดอีกด้วย

นักขับที่พลาดลงโซโล่ฝีมือในปีนี้ เตรียมตัวใหพร้อมเจอกันปีหน้าสำหรับกิจกรรมดีมีประโยชน์อย่างรายการ UD Trucks Extra Mile Challenge !