“ไฮเวย์กรุ๊ป” สั่งซื้อวอลโว่ทรัคส์ล็อตใหญ่ ลุยงานขนส่งวัสดุก่อสร้างข้ามแดน

0
768

ไฮเวย์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ชั้นนำ เสริมศักยภาพงานขนส่งด้วยการสั่งซื้อวอลโว่ ทรัคส์ รุ่น FH13 440HP 6X4 Tandem Axle Lift จำนวน 26 คัน เพื่อรองรับแผนการขยายงานไปยังประเทศเมียนมาร์-สปป.ลาว เตรียมพร้อมแนะนำบริการในรูปแบบใหม่ Total Logistic Solution ภายในปีนี้ ขณะ “รองประธานวอลโว่ ทรัคส์ฯ” ภูมิใจเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของลูกค้า

คุณวสันต์ ครรชิตศิริกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ไฮเวย์กรุ๊ป เปิดเผยว่าปัจจุบันไฮเวย์กรุ๊ปดำเนินกิจการด้านโลจิสติกส์ มีรถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้ามากถึง 70 คัน และจะทำการปลดระวางจำนวน 16 คันในปีนี้ แต่เนื่องจากจำนวนรถที่มีอยู่ขณะนี้ไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเพียงพอ ไฮเวย์กรุ๊ป จึงได้สั่งซื้อรถหัวลากวอลโว่ ทรัคส์ รุ่น FH440 6X4 Tandem Axle Lift หรือรถหัวลากขับเคลื่อนสองเพลา 440 แรงม้า เพลาหลังยกได้จำนวน 26 คันเพื่อทดแทนรถที่ปลดระวางและเสริมทัพฟลีทรถให้เพิ่มขึ้นจาก 70 คันมาเป็น 80 คัน โดย 11 คันแรกได้ทำการรับมอบไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะดำเนินการรับมอบให้หมดภายในไตรมาส 3

“ผมอยากจะบอกว่าเราอยู่ในช่วงที่ขาดแคลนรถใช้งานอย่างหนักเพราะการค้าระหว่างเมียนมาร์กับต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของเมียนมาร์ได้เปลี่ยนรูปแบบจากขนส่งทางเรือมาเป็นขนส่งทางบก จึงทำให้เรามีโอกาสที่จะขนสินค้าแบบไป-กลับระหว่างไทยกับเมียนมาร์ได้มากขึ้น ทำให้เราต้องเพิ่มจำนวนรถให้สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนไป”

นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทไฮเวย์กรุ๊ป กล่าวอีกว่าขณะนี้ไฮเวย์กรุ๊ปอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในสปป.ลาวในการขยายธุรกิจรับขนส่งสินค้าผ่านแดนจากลาวไปยังประเทศเมียนมาร์โดยผ่านประเทศไทย ขณะเดียวกันไฮเวย์กรุ๊ปก็กำลังจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในเมียนมาร์กับพันธมิตร ชื่อบริษัท ไฮเวย์ ทรัคส์ เมียนมาร์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท โดยสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากัน ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันนโยบายการให้บริการขนส่งในรูปแบบ Total Logistics Solution หรือบริการขนส่งแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศเมียนมาร์

“ลูกค้าของเราจะได้รับความสะดวกสบายอย่างมากจากการใช้บริการ Total Logistics Solution ของเราเพื่อขนสินค้าข้ามพรมแดนทั้งสองประเทศ ซึ่งเราจะให้บริการแบบครบวงจรเพื่อให้สินค้าสามารถผ่านแดนจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง โดยเราจะรับดำเนินการด้านระบบศุลกากรของทั้งสองประเทศ การจัดหาบริษัทประกันภัย งานด้านเอกสารและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออก”

นอกจากนี้ คุณวสันต์ ยังเปิดเผยถึงการขยายธุรกิจไปยัง สปป. ลาว และประเทศเมียนมาร์ว่า นับเป็นแรงกดดันของ ไฮเวย์กรุ๊ป ให้เร่งพิจารณาแผนการสั่งซื้อรถวอลโว่ ทรัคส์ เพิ่มเติมอีก 12 คันในปีนี้จากเดิมที่ได้ดำเนินการสั่งซื้อไปแล้ว 26 คัน ทั้งนี้เพราะไฮเวย์กรุ๊ป ต้องการเตรียมความพร้อมเพื่อสามารถดำเนินการได้ทันทีหากโอกาสทางธุรกิจมาถึง

“เหตุผลที่ไฮเวย์กรุ๊ปเน้นใช้รถบรรทุกวอลโว่ ทรัคส์ สำหรับขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าเพราะวอลโว่ ทรัคส์ เป็นรถบรรทุกสายพันธุ์สวีเดนที่มีคุณภาพสูงตรงตามความต้องการของลูกค้าที่เน้นด้านความปลอดภัย คุณภาพของกระบวนการขนส่งและความประหยัดพลังงาน เราใช้วอลโว่ ทรัคส์ มาเกือบสองทศวรรษ และถ้าวอลโว่ ทรัคส์ คุณภาพไม่ดีพอ เราคงจะไม่ใช้วอลโว่ ทรัคส์ ต่อเนื่องมาเกือบสองทศวรรษ”

อย่างไรก็ดี กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทไฮเวย์กรุ๊ป กล่าวย้ำอีกว่าลูกค้าทุกรายมีความมั่นใจในการให้บริการของไฮเวย์กรุ๊ป ที่ใช้วอลโว่ ทรัคส์ในการขนส่งสินค้าในสภาพถนนขึ้น-ลงเขาและเต็มไปด้วยโค้งที่อันตรายตลอดเส้นทางระหว่างจังหวัดตากกับอำเภอแม่สอด สู่ชายแดนไทย-เมียนมาร์ และยังขนส่งงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะรถหัวลากรุ่นล่าสุดที่ได้สั่งซื้อ FH13 Tandem Axle Lift 440 แรงม้า ที่มาพร้อมด้วยพละกำลังขับเคลื่อน 2 เพลาเหมาะสำหรับงานหนัก และเส้นทางวิบากเป็นระยะทางยาว แต่ยังช่วยลดการสึกหรอของอะไหล่และประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงในเที่ยวขากลับเพราะสามารถยกเพลาหลังได้ ซึ่งตอบโจทย์งานขนส่งข้ามชายแดนอย่างมาก

“ไฮเวย์กรุ๊ปเมื่อปีที่แล้ว ยอดขายเติบโตประมาณ 8% มาแตะที่ระดับเกือบ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่องในอัตรา 8%”

ทางด้าน มร. ลารส์ช อีริค ฟอร์สเบิร์ก รองประธานวอลโว่ ทรัคส์ อินเตอร์เนชันแนล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่าวอลโว่ ทรัคส์ มีความภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของไฮเวย์กรุ๊ป ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของวอลโว่ ทรัคส์ ในความเป็นพันธมิตรเสมือนหนึ่งเป็นหุ้นส่วนของลูกค้า

“วอลโว่ ทรัคส์ ในหลายประเทศ ได้ยึดถือหลักปฏิบัติเช่นเดียวกับประเทศไทยในการเป็นพันธมิตรที่ดีกับลูกค้า ดังนั้น เมื่อลูกค้าประสบความสำเร็จ แน่นอนมันย่อมเป็นความสำเร็จของเราด้วยเช่นกัน”

ถึงกระนั้น มร.ฟอร์สเบิร์ก กล่าวย้ำตอนท้ายว่าวอลโว่ ทรัคส์ เป็นเพียงรถบรรทุกไม่กี่ยี่ห้อที่เหมาะสมกับสภาพถนนเชื่อมในจังหวัดตาก โดยเฉพาะอำเภอแม่สอดที่มีเส้นทางการเดินทางเป็นทางขึ้น-ลงเขาและคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง ซึ่งสภาพถนนเช่นนี้ ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น รถบรรทุกที่จะวิ่งบนสภาพท้องถนนเช่นนี้ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องเป็นรถบรรทุกที่มีคุณภาพดีเยี่ยม