ชาวบ้านในอำเภอโคกสูงร้องรัฐ – กฟภ. ตรวจสอบพฤติกรรม กฟภ. สาขาย่อยโคกสูง ทำพิลึก! ยื่นขอติดตั้งไฟฟ้าต้องยื่นเอกสารโฉนดที่ดิน สุดมึนในพื้นที่เกือบทั้งอำเภอมีโฉนดแทบจะนับหัวได้ แถมจุดที่ยื่นขอติดตั้งยังเป็นจุดผ่อนปรนการค้าใหม่ ที่ผู้ว่าฯ สระแก้ว – บันเตียเมียนเจย เพิ่งจะร่วมกันทำพิธีเปิด
Logistics Time มีโอกาสเลาะเลียบ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว” 1 ในผลงาน “ชิ้นโบแดง” ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ที่บ้านป่าไร่ อำเภออรัญประเทศนั้น การก่อสร้างล่าสุดคืบหน้าเป็นรูปร่างชัดเจน
เช่นเดียวกับการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อจากอำเภอวัฒนานครไปยังด่านถาวรที่ด่านหนองเอี่ยน – สตรึงบท และด่านป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปกว่า 60-70% แล้ว ทำให้มองเห็นโอกาสและลู่ทางที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดนสระแก้วแห่งนี้จะเป็นประตูสู่อินโดจีนได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม ระหว่างผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจทางหลวงชนบทที่เชื่อมต่อจากนิคมฯ สระแก้ว ไปยังจุดผ่อนปรนบ้านโนนหมากมุ่น – บึงสนอร์ (หลักเขตแดนที่ 43) ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนแห่งใหม่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยของกัมพูชา กำหนดให้เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าแห่งใหม่รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันทำพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างกันไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ก็ได้รับการร้องเรียนชาวบ้านในพื้นที่ที่เห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงเร่งเข้ามาผุดโกดัง ร้านค้า และบ้านเรือนบริเวณจุดผ่อนปรนแห่งใหม่ที่ว่า ซึ่งอยู่ติด “ตลาดยายเรียง” ที่เปิดมานานร่วมสิบปีแล้ว
โดยชาวบ้านละแวกนั้นได้ร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนเพราไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้จะตั้งติดจุดผ่อนปรนแห่งใหม่ ส่วนที่เห็นไฟทางสว่างจ้าในเวลาค่ำคืนนั้น เป็นไฟทางของกรมทางหลวงชนบทที่มาพร้อมกับการขยายถนนเป็น 3-4 เลน ส่วนชาวบ้านร้านรวงที่มีอยู่เกือบ 10 ราย ต้องไปอาศัยต่อไฟจากเจ้าของตลาดเดิม
ทั้งนี้ จากการสอบถามก็ได้ความว่าชาวบ้านร้านรวงและโกดังร้านค้าเหล่านี้ เคยไปติดต่อสำนักงานไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาโคกสูง เจ้าของพื้นที่แล้ว แต่ได้รับคำตอบว่า อยู่นอกเขตไม่มีแผนขยายเขตไฟฟ้าให้ อีกทั้งที่ตั้งของบ้านเรือน โกดัง ร้านค้าเหล่านี้ยัง “ไม่มีเอกสารโฉนดที่ดิน” ตามหลักเกณฑ์ แม้จะมีเอกสารสิทธิ์ ภบท.5 มีบ้านเลขที่หรือมีที่ตั้งถาวรที่กระทรวงมหาดไทยออกให้ แต่สำหรับ กฟภ.นั้น ไม่สามารถจัดหาไฟฟ้าลงให้ได้ หากจะให้ขยายเขตจ่ายไฟให้เป็นกรณีพิเศษ ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย 180,000 บาท หรือไม่ก็ต้องไปหาโฉนดมายื่นขอ เป็นอันจบ!
คำตอบของ กฟภ.สาขาโคกสูง ได้ทำเอาชาวบ้านร้านรวงได้แต่นั่งตาละห้อย เพราะไม่รู้จะไปแสวงหาโฉนดที่ดินที่ไหนมายยื่นขอ เนื่องจากในเขตอำเภอโคกสูง หรืออรัญประเทศนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงมีเอกสารสิทธิ์เป็นเพียง สปก.หรือ ภบท.5 เท่านั้น เอกสารที่เป็น “โฉนดที่ดิน” นั้นแทบจะนับหัวกันได้ จึงทำให้มีคำถามว่า แล้วบรรดาโกดัง ร้านค้า และตลาดที่อยู่บริเวณเดียวกัน ที่ล้วนมีเอกสารสิทธิ์แบบเดียวกัน ทำไม กฟภ. จึงสามารถติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าให้ได้
“สิ่งที่ต้องย้อนถามไปยังผู้บริหาร กฟภ. สำนักงานสาขาโคกสูง และสำนักงานไฟฟ้าภูมิภาค สาขาอรัญประเทศ ที่เป็นต้นสังกัด ไม่รู้เชียวหรือว่า สถานที่ตรงนี้คือ “จุดผ่อนปรนบ้านโนนหมากมุ่น – บึงสนอร์” ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพิ่งร่วมกันทำพิธีเปิดให้จุดผ่อนปรนทางการค้าใหม่ เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน”
คำตอบที่ผู้บริหาร กฟภ. สาขาโคกสูง ตอบชาวบ้านร้านรวงที่จะขอไฟได้ต้องใช้โฉนดที่ดินมาแสดงเท่านั้น มันช่างขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในพื้นที่เสียจริง เพราะหากเป็นไปตามที่ท่านยืนยัน ก็มีหวังชาวบ้านร้านรวงในอำเภอนี้เกือบทั้งอำเภอคงไม่มีทางขอใช้ไฟฟ้าได้แน่
ขณะเดียวกันยังก่อให้เกิดคำถามย้อนแย้งไปยัง นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่า กฟภ. ด้วยว่าเป็นนโยบายของ กฟภ.จริงหรือไม่ ประชาชนที่จะยื่นขอใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะพื้นที่หรือท้องที่ใด หากไม่มีเอกสารโฉนดที่ดินมาแสดงแล้ว ไม่สามารถจะขอใช้ไฟฟ้าได้ “แล้วพื้นที่ที่เห็นตามรูปถ่ายที่ กฟภ. สาขาโคกสูงบอกว่า อยู่นอกเขตและไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้ได้เพราะชาวบ้านไม่มีเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดิน หากจะพิจารณาติดตั้งไฟเกษตรให้ชาวบ้านจะต้องรวมตัวกันจ่ายค่าหม้อแปลง 180,000 บาทที่ว่านั่้น จึงจะดำเนินการให้ได้ “
ก็ไม่รู้ว่า ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ฟังแล้วจะปลื้มและนึกชื่นชมกับ “วิสัยทัศน์” ของผู้บริหารท้องถิ่นแห่งนี้ด้วยหรือไม่ เพราะในขณะที่รัฐบาลพยายามป่าวประกาศปลุกเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ปลุกเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจสระแก้ว ที่ถือเป็นประตูสู่อินโดจีน จนถึงขั้นมีโครงการจะก่อสร้างรถไฟเชื่อมจากตะวันตก จ.กาญจนบุรี มายังอรัญประเทศ
ตัวผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเองก็เพิ่งจะร่วมกับทางจังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างถนนและสะพานเชื่อมจุดผ่อนปรนใหม่ เพื่อรองรับนโยบายเขตเศรษฐกิจการค้าชายแดนของรัฐบาล ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เองก็ประกาศนโยบาย “โปร่งใสอย่างยั่งยืน” ประชาชนขอไฟฟ้าอย่างไรต้องมีคำตอบให้ได้ภายใน 5 วัน 7 วัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านร้านรวงบริเวณจุดผ่อนปรนใหม่บ้านโนนหมากมุ่นนั้น สอดรับกับนโยบาย กฟภ. และรัฐบาลหรือไม่ คำตอบนั้นทุกฝ่ายรู้สาแก่ใจกันดีอยู่แล้ว !!!
บรรยายภาพ : เสาไฟฟ้าที่ตั้งเรียงรายตลอดแนวถนน ทอดยาวไปยังจุดผ่อนปรนโนนหมากมุ่น แต่ชาวบ้านร้านรวง และโกดังสินค้านับสิบครัวเรือนที่ขอติดตั้งไฟ ได้รับคำตอบว่าไม่อยู่ในเขตขยายไฟฟ้าให้ได้ต้องขอต่อไฟจากตลาดเก่าแทน
