แม้จะเป็นผลงาน “ชิ้นโบว์แดง”ของรัฐบาลโดยเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่ทำหน้าที่เป็น “มือประสานสิบทิศ”ดึง 9 ลูกเทพร่วมลงขันเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค. นี้ที่ประเทศรัสเซีย
ผลพวงความสำเร็จที่เกิดข้ึนจากการดึง 9 ลูกเทพเข้ามาร่วมลงขันกันในคร้ังนี้ มีใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังกันอย่างไรน้ัน ประชาชนคไทยคงไม่อินังขังขับอะไร แต่ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าประชาชนคนไทยจะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 จากรัสเซียได้ครบทั้ง 64 คู่ผ่านช่องทีวีดิจิทัล 3 ช่องคือ ช่อง 5 HD(หมายเลข 1),True4U(ช่อง24)ในระบบ SD และ Amarin TV HD (34)ในระบบ HD
และยังสามารถรับชมผ่านโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกจาก True Vision ทางช่องTrue Sport HD 2 (ช่อง 667) ,True Sport HD3 (ช่อง 668) และช่อง 400 ในระบบ 4K (Ultra HD) โดยสมาชิก True Vision ต้องเสียค่าติดตั้งกล่อง True Vision ระบบ4K ในราคา 2,000 บาท/กล่อง/จุด(จากปกติ 9,500 บาท)
แต่อย่างที่โบราณท่านว่าไว้ ”There’s no free lunch…โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี” ไอ้ที่ประชาชนคนไทยกำลังตีปี๊บจะได้ดูบอลโลกกันฉ่ำปอดฟรีนั้นเห็นจะไม่ใช่แน่ ลูกเทพทั้ง 9 รายที่ร่วมลงขันจะได้อะไรแลกเปลี่ยนกลับไปน้ัน เชื่อแน่ว่าคงไม่เกินความสามารถของเครือข่ายต่างๆ จะเจาะลึกลงไปดูไส้ในแต่ละกลุ่มได้แน่
แต่ที่แน่ๆ ในส่วนของประชาชนที่รับชมผ่านโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อกเดิมคือเสาก้างปลานั้น จะไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ เพราะไม่ได้ถ่ายทอดสดทางช่อง 3,7,MCOT ที่แม้จะยังคงเปิดให้บริการอยู่ รวมไปถึงช่อง 5,NBT และ ThaiPBS ที่ปิดให้บริการไปแล้วในหลายพื้นที่ทำให้ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้เช่นกัน
จุดนี้เองที่ทำเอาหลายฝ่ายต่างแสดงข้อกังขา เหตุใดสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ถึงยอมใหมีการ้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกผ่านได้เฉพาะช่อง 5(ทหาร) , True4U (CP)และ Amarin TV (เบียร์ช้าง) เพียง 3 ช่องทางนี้เท่านั้น
กสทช. มั่นใจได้อย่างไรว่า โครงข่ายทีวีภาคพื้นดินระบบดิจิทัล 3 ช่องดังกล่าวจะสามารถให้บริการได้ครบทุกพื้นที่ในประเทศไทยตามกฎ Must Carry ยิ่งไปกว่านั้น โครงข่ายของทรูวิชั่น ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์แบบไม่ใช้คลื่นความถี่ (เหมือนโครงข่ายดาวเทียม และโครงข่ายเคเบิลท้องถิ่น) แต่กลับเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์เพียงรายเดียวที่สามารถเอารายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ ไปเผยแพร่ในช่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่องโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปได้ถึง 3 ช่องคือช่อง True Sport HD 2 (ช่อง 667) ,True Sport HD 3 (ช่อง 668) และช่อง 400 ในระบบ 4K (Ultra HD) และไม่ได้เป็นการเผยแพร่เป็นการท่ัวไปตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนดไว้แม้แต่น้อย
เพราะตามหลักเกณฑ์กสทช.ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญกำหนดให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปท่านั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการโทรทัศน์ที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรม และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป
เหตุใดกสทช.ถึงยอมให้ทรูแหกอกแหกหลักเกณฑ์์ที่ตนเองตั้งเอาไว้เช่นนี้ เป็นการเอื้อประโยชน์ หรือต่างตอบแทนเช่นที่ใครต่อใครพากันตั้งข้อกังขากันมาตลอดหรือไม่ ทั้งๆที่มีกฎต่างๆของกสทช. นั้นกำหนดไว้อย่างชัดเจนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกสามารถเผยแพร่ได้ภายใต้ช่องรายการที่ให้บริการเป็นการทั่วไปเท่านั้น
เป็น “ยาดำ” ที่คงทำเอา กสทช.กลืนไม่เข้า คายไม่ออกจริงๆ!!!
:เนตรทิพย์
