แอร์เอเชียยืนยันลงทุน 4,500 ล้านบาทสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานในอู่ตะเภาแน่ ยื่นข้อเสนอลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินหวังดันจำนวนผู้โดยสารโลว์คอส พร้อมสนับสนุนสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารโลว์คอส เชื่อหลังรถไฟความเร็วสูง-อาคารที่พักผู้โดยสารโลว์คอสแล้วเสร็จและลดค่าธรรมเนียมใช้สนามบินลงภายใน 5 ปี ผู้โดยสารขยับ 20-30 ล้านคน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือกับนายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชียว่า หลังจากที่พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(พ.ร.บ.อีอีซี)มีผลบังคับใช้ ทางนายโทนี่ เฟอร์นานเดส ได้เดินทางมายืนยันว่า ทางแอร์เอเชียต้องการจะลงทุนในไทยอย่างแน่นอน โดยให้ความสำคัญไทยเป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคหรือเฮดควอเตอร์ โดยจะลงทุนในกิจการศูนย์ซ่อมอากาศยานหรือเอ็มอาร์โอ และขอให้ไทยลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินที่อู่ตะเภาลง จึงได้ให้ไปคำนวณว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นปีละเท่าไหร่ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในเรื่องนี้ และในอนาคตสายการราคาประหยัดหรือโลว์คอสของไทย คือนกแอร์ อาจจะร่วมมือกับแอร์เอเชียได้ โดยไม่ต้องเป็นคู่แข่งกัน
ด้านนายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชียกล่าวว่า แอร์เอเชียมีแผนจะลงทุนสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานร่วมกับหุ้นส่วนที่มีความเชี่ยวชาญซ่อมอากาศยาน ที่สนามบินอู่ตะเภา วงเงินลงทุน 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท ( 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อดูแลเครื่องบินของแอร์เอเชียซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 200 ลำทั้งที่อยู่ในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย และในอนาคตจะขยายเป็น 300-350 ลำ รวมทั้งดูและเครื่องบินของสายการบินอื่นที่จะมาใช้บริการด้วย ซึ่งหากได้รับการอนุมัติหลักการจากรัฐบาลจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 12 เดือน
นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้มีการสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารสำหรับโลว์คอสโดยเฉพาะที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเงินลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ทางแอร์เอเชียจะช่วยหาผู้ที่สนใจลงทุนมาดำเนินการให้ จะไม่ดำเนินการสร้างเอง เพราะจะมีผลต่อการเข้ามาใช้งานของสายการบินอื่น และยังเสนอให้รัฐลดลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินที่อู่ตะเภาลงจาก 400บาทเหลือ 200-250 บาท เพื่อสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางโดยเครื่องบินมาอู่ตะเภามากขึ้น
“ปัจจุบันแอร์เอเชียมีเครื่องบินที่ประจำที่อู่ตะเภาจำนวน 2 ลำ จำนวน 9 เส้นทางบิน เป็นเส้นทางต่างประเทศ 3 เส้นทางคือ มาเก๊า จีน และกัวลาลัมเปอร์ และมีแผนจะเพิ่มอีก ปีละ 2 ลำไปเรื่อยๆ รองรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางของผู้โดยสารเติบโตเต็มที่ และเมื่อรวมกับการสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารโลว์คอสที่คาดว่าจะแล้วเสร็จใกล้เคียงกับรถไฟความเร็วสูง ทางแอร์เอเชียจะนำเครื่องบินขนาดใหญ่มาใช้งาน บินจากเกาหลี ญี่ปุ่น จีน มาลงที่อู่ตะเภา รวมไปถึง ออสเตรเลียและยุโรปด้วย ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามจิ๊กซอ ทั้งรถไฟความเร็วสูงแล้ว อาคารที่พักผู้โดยสารโดยสารโลว์คอสแล้วเสร็จ และลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินลง จะทำให้สนามบินอู่ตะเภามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20-30 ล้านคน เท่ากับสนามบินดอนเมือง
