“ไทคอน” ผู้นำตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เผยโรดแมป 3 ปีพร้อมขึ้นทะยานสู่ผู้นำอันดับหนึ่งในระดับอาเซียน ทุ่มงบลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ Total Dimension ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ผ่านแผนธุรกิจเชิงรุก 4 พร้อมตั้งเป้าปี 2561 เติบโตอย่างก้าวกระโดด
นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON กล่าวว่าเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยบวกในตลาด บริษัทจึงได้ทุ่มงบ10,000 ล้านบาทพร้อมประกาศโรดแมปแผนการดำเนินธุรกิจ 3 ปีภายใต้ปรัชญาการดำเนินงานในการเป็น “ผู้สร้างสรรค์ประสบการณ์อันทรงคุณค่าเพื่อลูกค้า” หรือ“Delivering Valuable Experiences”โดยเราจะเสมือนเพื่อนคู่คิดของลูกค้าและพันธมิตร ที่พร้อมจะส่งมอบสินค้า โซลูชั่น และบริการที่ตรงความต้องการที่สำคัญเราจะใช้นโยบายเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรและพันธมิตรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการก้าวสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ หรืออุตสาหกรรมยุค 4.0 ที่จะเข้ามามีบทบาทในอนาคตอันใกล้”
“ในปีที่ผ่านมา ไทคอนยังประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สะท้อนจากการคว้ามาตรฐาน LEED® Building (Leadership in Energy and Environmental Design) ระดับโกลด์ และมาตรฐาน EDGE (Excellence in Design for Greater Efficiencies) โครงการ TPARK บางพลี 4 คว้ามาตรฐาน LEED ระดับซิลเวอร์ให้กับคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit ของแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกบนพื้นที่โครงการ TPARK บางนา นอกจากนี้ไทคอนยังมีแผนที่จะเตรียมลงทุนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการใช้แผง Solar Cell ในการผลิตไฟฟ้า เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าและบริษัท”
ขณะที่นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับโรดแมปหรือแผนการดำเนินธุรกิจ 3 ปี ไทคอนจะใช้กลยุทธ์Total Dimension ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติผ่านแผนธุรกิจเชิงรุก 4 ด้าน ได้แก่ รุกเจาะตลาดด้วยจุดแข็งด้านบริการที่ครบวงจร พร้อมเปิดธุรกิจใหม่ขยายฐานลูกค้า รุกสร้างนวัตกรรมให้องค์กรและผลิตภัณฑ์ ปรับองค์กรให้พร้อมรุกไปข้างหน้ามากยิ่งขึ้น รุกผลักดันธุรกิจให้เติบโต โดยไทคอนตั้งเป้าหมายจะเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่เป็น 85% ภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 69% และสุดท้ายรุกวางรากฐานการเงินที่แข็งแกร่ง สร้างสมดุลด้านการบริหารจัดการรายได้
นอกจากนี้ นายวีรพันธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าจากกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ และแผนธุรกิจต่างๆ ภายใต้โรดแมป3 ปีที่วางไว้ ตลอดจนการเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรมและกลุ่มนักลงทุน เรามั่นใจว่าจะช่วยผลักดันกำไรสุทธิปีนี้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศให้กว้างขึ้น และก้าวสู่ผู้นำตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในระดับอาเซียนภายในปี 2020 ด้วยพื้นที่บริหารจัดการกว่า 3 ล้านตารางเมตร”
