ท่ามกลางธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์เมืองไทยที่ถูกจัดเป็น “ธุรกิจเนื้อหอม” อันดับต้นๆ ที่สำคัญธุรกิจนี้นับวันยิ่งแข่งขันดุเดือดเข้มข้นขึ้นทุกปี ผู้ประกอบการรายไหนไม่เก่งและแกร่งจริงอีกทั้งยังไม่เก๋าเกมพอเตรียมม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลย เพราะวงการนี้ล้วนอุดมด้วย “เสือ สิงห์ กระทิง แรด”
ขณะที่องค์ประกอบอันจะนำพาธุรกิจนี้พุ่งชนความสำเร็จได้นั้น “รถบรรทุก”ที่บรรทุกสินค้าจากต้นทางยันปลายทางอย่างปลอดภัย ถือเป็นองค์ประกอบเอกอุที่ผู้ประกอบการขนส่งไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกรายจึงให้ความสำคัญกับการเลือกเฟ้นรถบรรทุกที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งให้มากที่สุด!
เช่นเดียวกับ“อ้วนคอนเทนเนอร์”บริษัทขนส่งสายพันธุ์ไทยที่มาแรงแซงทุกโค้งขนส่งในเวลานี้ หลังสร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการขนส่งสินค้าด้วยการเหมาเข่งรถหัวลากแบรนด์พรีเมี่ยมยุโปรอย่าง “สแกนเนีย” รุ่น P360 มากถึง 32 คันรวด พร้อมต่อหางยกดัมพ์ขนาดความยาว 7 เมตรจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง PANUS ถึง 32 คันเช่นกัน
จนเกิดคำถามคาใจจากเพื่อนพ้องน้องพี่กระพือในวงการว่า ”เฮียอ้วน”กล้าดีอย่างไร? หรือยกเหตุผลมาจากซีกโลกการค้าไหนมาวัดตวงถึงความคุ้มค่าและผลกำไรที่จะเกิดจากการใจเด็ดทุ่มทุนมากมายกายกองเพียงนี้? โดยเฉพาะการเทใจเลือกซื้อรถหัวลากสายพันธุ์แกร่งจากสวีเดนอย่าง “สแกนนีย” พร้อมต่อหางดัมพ์ PANUS มากถึง 32 คันรวด เป็นจ่าฝูงรถบรรทุกในการขับเคลื่อนธุรกิจขนส่งของเขา มูลค่ารวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 130 ล้านบาท
อ้วนคอนเทนเนอร์…ชื่อนี้มีที่มา!
เบื้องต้น “วุฒิพงษ์ วิศิษฏ์ศักดิ์”กรรการผู้จัดการ บริษัท อ้วนคอตเทนเนอร์ จำกัด หรือวงการรู้จักกันดีในนาม “เฮียอ้วน”เปิดหัวการพูดคุยแบบ Exclusive ถึงโปรไฟล์บริษัทอ้วนคอนเทนเนอร์ว่าบริษัทฯรับให้บริการขนส่งสินค้าทุกประเภทด้วยรถหัวลากยกดัมพ์, 10 ล้อพ่วงแม่ลูกยกดัมพ์,รถตู้แห้ง 6 ล้อ 10 ล้อ 22 ล้อ, ลานพักตู้, คนงานขึ้น-ลงสินค้า, ให้เช่าตู้ 20 และ 40 ฟุต โดยเรามีประสบการณ์ด้านการขนส่งกว่า 24 ปี ให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยความมุ่งมั่นและจริงใจในงานบริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการเป็นหลัก
“เรามีระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เน้นการบริการที่มีคุณภาพ ตรงเวลา สินค้าปลอดภัย พนักงานขับรถมีความสุภาพและซื่อสัตย์ โดยมีรถบรรทุกที่มีประสิทธิภาพและสมรรถนะสูง ให้บริการกว่า 100 คัน ทั้งรถหัวลาก หางลาก รถบรรทุกสิบล้อ รถบรรทุกหกล้อ และรถหัวลากตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมพนักงานขับรถที่มีประสบการณ์กว่า 50 คน รองรับการรับ-ส่ง สินค้าทุกประเภท และสามารถบริการนำส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ การบริหารจัดการและการขับเคลื่อนธุรกิจขนส่งภายใต้นโยบายที่มุ่งเน้นการให้บริการที่ดี มีความรับผิดชอบสูง ตรงเวลา ซื่อสัตย์และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ขณะที่พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการสูญเสียต่างๆ และให้ความมั่นใจต่อพนักงานเสมือนคนในครอบครัวที่เราพร้อมจะดูแลเขาให้มีความก้าวหน้า มีรายได้และสวัสดิการที่ดีในการดำรงชีวิต”
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการบริการที่โดดเด่นและแตกต่างจากรายอื่น เพราะเราอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบครบวงจร โดยมีแรงงานขนย้ายสินค้าให้บริการ ลูกค้าประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นบริษัทแรกที่มีรถให้บริการแบบตู้คอนเทนเนอร์ยกดัมพ์ (โดยออกแบบเอง) ซึ่งบรรทุกได้ถึง 26 ตัน เพื่อให้ลูกค้าลดการใช้แรงงานขนย้าย และประหยัดค่าใช้จ่ายมีรถ Mobile Service ให้บริการซ่อมรถฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการนำส่งสินค้าอย่างปลอดภัยและตรงเวลา
เสริมเขี้ยวเล็บงานขนส่งด้วยรถหัวลาก SCANIA 32 คัน
กับคำถามคาใจของหลายๆคนทำไมอ้วนคอนเทนเนอร์ถึงได้เทใจเลือกซื้อรถหัวลากสแกนเนีย รุ่น P360 ถึง 32 คันรวดนั้น วุฒิพงษ์ ให้เหตุเผลว่าเรามีประสบการณ์ในวงการมากกว่า 24 ปี ย่อมรู้ดีว่ารถยี่ห้อไหนใช้ได้ดีและเหมาะสมกับลักษณะงานขนส่ง อย่าลืมว่าลูกค้าที่เขาจะตัดสินใจเลือกบริษัทไหนขนส่งสินค้าให้กับเขา ต้องมีคุณภาพในการขนส่งสินค้าได้มาตรฐานผ่านระบบ KPI (KEY PERFORMANCE INDICATORS)เพื่อวัดผลการปฏิบัติงานรับ-ส่งสินค้า ตรงเวลา สินค้าปลอดภัย มีประกันรถและสินค้าทุกประเภท
“การที่เราเลือกใช้รถบรรทุกยุโรปอย่างสแกนเนีย ทุกคนต่างรู้ดีและต่างก็ยอมรับรถบรรทุกยุโรปที่การันตีได้ถึงความเป็นรถบรรทุกที่มีเทคโนโลยีสูงและมีความทันสมัย สมรรถนะดีเยี่ยม มีความปลอดภัยสูง โดดเด่นด้านประหยัดเชื้อเพลิง คนขับรถของเราเคยทำได้เฉลี่ย 3.8 กม./ลิตรมาแล้ว แม้จะมีราคาค่าตัวค่อนข้างสูงหากเทียบกับรถญี่ปุ่น แต่เรามองการทำธุรกิจในระยะยาวที่สามารถคืนทุนและสร้างกำไรงามให้กับธุรกิจเราได้ เพราะรถของเขาดี แข็งแกร่ง และทนทานจริง ประสิทธิภาพในการใช้งานสูง และที่สำคัญความเป็น Brand Image ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทฯ และช่วยยกระดับมาตรฐานการขนส่งให้สูงขึ้นอีกด้วย”
มั่นใจบริการหลังการขายของสแกนเนีย
ส่วนประเด็นความมั่นใจในบริการหลังการขายนั้น วุฒิพงษ์ ระบุว่าเนื่องจากเราซื้อล็อตใหญ่ถึง 32 คันรวด ถือเป็นการลงทุนค่อนข้างสูงมาก ราคารถหัวลากบวกกับหางยกดัมพ์ก็ปาเข้าไปแล้วกว่า 4 ล้านต่อคัน ดังนั้น การบำรุงรักษาจึงมีความสำคัญอย่างมาก เรามั่นใจในบริการหลังการขายของสแกนเนียมาก เพราะเขาคือบริษัทฯค่ายรถยุโรปที่มีการบริหารจัดการและมาตรฐานการบริการสูง มีทีมงานช่างที่มีทักษะและประสบการณ์สูง มีศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
“เราเชื่อมั่นในการดูแลและการบริหารจัดการฟรีทของสแกนเนีย รถบรรทุกยุโรปได้ชื่อว่ามีเทคโนโลยีสูง คนขับรถที่จะเป็นผู้ควบพาหนะขนส่งสินค้าจากต้นทางสู่ปลายทางได้นั้น ย่อมเป็นทรัพยาบุคคลที่สำคัญอย่างมาก เมื่อรถมีเทคโนโลยีสูงคนขับก็ต้องตามให้ทันกับเทคโนโลยี ต้องมีทักษะและชำนาญการในการขับรถสูง มีความรู้และความเข้าใจกับการใช้งานของอุปกรณ์และอ๊อฟชั่นพิเศษที่ติดมากับตัวรถเป็นอย่างดี ถึงจะใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงนี้เราก็ประทับใจในการบริการเสริมของสแกนเนียเป็นอย่างมาก เพราะเขามีการเปิดคอร์สฝึกอบรมพนักงานขับรถสแกนเนียให้มีประสิทธิภาพเป็นประจำ เราเองก็ส่งพนักงานเข้าร่วมอบรม หรือแม้จะร้องขอให้อาจารย์ช่วยมาฝึกอบรมที่สำนักงานของเราเป็นกรณิพิเศษ ทางสแกนเนียก็ยินดีในการร้องขอของเราทุกครั้ง ”
เลือกต่อหางดัมพ์ PANUS มั่นใจมาตรฐานสูง
ขณะที่เลือกต่อหางยกดัมพ์แบรนด์พนัสนั้น วุฒิพงษ์ สะท้่อนมุมมองว่าแบรนด์พนัสก็เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยอยู่แล้ว มีชื่อเสียงและคุณภาพของสินค้าและการบริการเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าอยู่แล้ว จึงไม่แปลกหรอกที่พนัสจะทะยานเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในไทย ประกอบกับที่เราเองต้องใช้หางยกดัมพ์เป็นจำนวนมากถึง 32 คัน ก็ต้องคิดให้ดีและรอบด้านต่อการใช้งานระยะยาว เราจึงไว้วางใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ประกอบการที่ได้รับการยอมรับอย่างแบรนด์พนัสให้ต่อหางยกดัมพ์ 7 เมตรทั้งหมด 32 คัน
“เรากล้าพูดเลยว่าเวลานี้อ้วนคอนเทนเนอร์เป็นผู้ขนส่งที่มีหางยกดัมพ์ 7 เมตรมากที่สุดในท้องตลาด เป็นการยกระดับมาตรฐานการขนส่งที่ช่วยให้ผู้ว่าจ้างประหยัดค่าแรงและเวลาในการลงตู้สินค้า เพราะบางทีการขึ้น-ลงตู้สินค้าในบางสถานที่ที่ไม่มีรถหางดัมพ์บริการ ก็ต้องใช้แรงงานในการขึ้น-ลงตู้สินค้า หมายความว่าผู้ว่าจ้างก็ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นในการลงตู้สินค้า 800-1,000 บาทต่อตู้ เป็นการเพิ่มต้นทุน อีกทั้งยังต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการลงตู้สินค้าในแต่ละครั้ง แต่หากเป็นหางยกดัมพ์ใช้เวลาลงตู้สินค้าแค่ 10 นาทีต่อตู้เท่านั้น”
อย่างไรก็ดี วุฒิพงษ์ สรุปปิดท้ายว่าแม้ตัวรดจะมีความสำคัญอย่างมาก แต่เราก็ไม่ละเลยความสำคัญของคนขับเพราะเขาคือทรัยากรบุคคลทรงคุณค่า เป็นผู้ดูแลรถแทนเรา และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจขนส่งของเราไปสู่ความสำเร็จได้ ที่นี่ให้ค่าตอบแทนที่สูงมาก เรามีสวัสดิการให้ ดูแลเขาเสมือนคนในครอบครัวเรา ปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีต่ออาชีพของเขา เพื่อให้เขามีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงในชีวิตและการงาน ที่สำคัญเขาสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีความสุขสมดุล
“ทั้งรถและคนล้วนก็มีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งก็ต้องมีดีและความสำคัญควบคู่กันไป ดังนั้น การที่เราเลือกใช้รถหัวลากสแกนเนีย พร้อมกับให้ทางพนัสต่อหางยกดัมพ์ถึง 32 คันรวด ถือว่าเป็นสร้างศักยภาพงานให้บริการขนส่งของเรา อีกทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรฐานการขนส่งให้เป็นที่ยอมรับของผู้ว่าจ้าง ที่ต้องการความปลอดภัยของสินค้า การตรงต่อเวลา และการบริการที่ดีเยี่ยม อีกทั่งยังเป็นการตอบโจทย์งานขนส่งที่ประหยัดเวลาและต้นทุนได้เป็นอย่างดี”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งตัวรถและคนขับต่างก็เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจขนส่ง เมื่อรถดีก็ต้องควบคู่กับคนขับที่ดีนอกเหนือจากเปี่ยมด้วยทักษะและชำนาญการสูงในการควบรถคู่กายสู่แล้ว เนื้อในสำนึกต่ออาชีพก็ต้องทะยานสูงด้วยเช่นกัน
…จึงจะเป็นเนื้อนาบุญต่อกันและกันได้ดี!