“ไพรินทร์” จี้ กทท.เร่งเครื่องโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3

0
117

“ไพรินทร์”จี้ กทท.เร่งพัฒนาโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 เพื่อสนับสนุน EEC  เผยร่าง TORและ EHIA) จะแล้วเสร็จภายในปี 61 และสามารถสรรหาผู้ประกอบการได้ภายในสิ้นปี 61 ชี้เพิ่มขีดความสามารถการขนถ่ายตู้สินค้าเข้า – ออก จาก 7 ล้านทีอียูต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 15 – 18 ล้านทีอียูต่อปี รองรับ EEC และกลุ่มอุตสาหกรรมของประเทศ CLMV และจะเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ อันดับ 1 ใน 3 ของเอเชียอาคเนย์ ถัดจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) เป็นท่าเรือขนถ่ายตู้สินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันมีขีดความสามารถในการขนถ่ายตู้สินค้าเข้า – ออก ประมาณ 7 ล้านทีอียูต่อปี สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้รับมอบหมายภารกิจในการเตรียมการรองรับการขยายตัวของ EEC โดยการดำเนินโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 เพื่อรองรับการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟและเพิ่มระบบการจัดการแบบอัตโนมัติ ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว เป็นโครงการที่สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานของ EEC คาดว่าภายในปี 2561 ร่างขอบเขตและข้อกำหนดของโครงการ (TOR) และผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) จะแล้วเสร็จ และสามารถสรรหาผู้ประกอบการได้ภายในสิ้นปี 2561 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนถ่ายตู้สินค้าเข้า – ออก จาก 7 ล้านทีอียูต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 15 – 18 ล้านทีอียูต่อปี รองรับ EEC และกลุ่มอุตสาหกรรมของประเทศ CLMV และจะเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ อันดับ 1 ใน 3 ของเอเชียอาคเนย์ ถัดจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้ กทท. ดำเนินงานแบบไร้รอยต่อ ระหว่างระบบรางกับเรือ และถนนกับเรือให้สามารถเชื่อมโยงได้อย่างสะดวก และให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมบริเวณท่าเรือ