“เรากำหนดแนวทางถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยให้กับเกษตรกร ซึ่งผ่านวิธีการต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นการอบรม การสอนการวิเคราะห์สภาพดิน การนำเครื่องจักรสมัยใหม่ เพื่อเป็นการสนับสนุนการผลิตและลดปัจจัยเสี่ยงทางการผลิต”
“ บัลลังก์ โมเดล ” ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการประชารัฐ อันเกิดจากความร่วมมือภายใต้การทำข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างภาครัฐประกอบด้วยเทศบาลตำบลบัลลังก์ สำนักงานเกษตรอำเภอโนนไทย และหน่วยราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึง บริษัทกรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (มหาชน)
โครงการดังกล่าวได้ชื่อว่า ต้นแบบด้านการเกษตร ที่มุ่งส่งเสริมการทำเกษตรสมัยใหม่ ด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และก่อกำเนิดขึ้นที่ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เป็นแห่งแรก ภายใต้โครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” หรือ “บัลลังก์ โมเดล ” ซึ่งริเริ่มดำเนินโครงการนับตั้งปี 2559 จนกระทั่งถึงวันนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เทศบาลตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับบริษัทกรุงเทพโปรดิ้วส์ฯ และภาคส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมจัดงาน Field Dayนำเสนอนิทรรศการโชว์ความสำเร็จ “ข้าวโพดแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรทันสมัย ” ณ เทศบาลตำบลบัลลังก์ ซึ่งมีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเข้าร่วมชมงานกันเป็นจำนวนมาก
วรพจน์ สุรัตวิศิษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ข้าวโพดแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรทันสมัย” สืบเนื่องจากบริษัทเป็นผู้ซื้อและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ และตระหนักว่าเกษตรกรถือเป็นต้นน้ำมีส่วนได้ส่วนที่สำคัญ บริษัทจึงเล็งเห็นความสำคัญในการมีส่วนรวมในการพัฒนาและยกระดับ เพื่อทำให้เกษตรในประเทศมีศักยภาพสูงตรงตามความต้องการตลาดมากยิ่งขึ้น ขณะที่การพัฒนาเกษตรกรมุ่งเน้นความยั่งยืน แต่วิธีการดำเนินการไม่เผาต่อซังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกษตรกรและชุมชนอาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่อย่างมีความสุข
นำเกษตรสมัยใหม่
ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินโครงการ “เกษตรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน”ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยมีแนวทางถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยให้กับเกษตรกร ซึ่งผ่านวิธีการต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นการอบรม การสอนการวิเคราะห์สภาพดินโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย การนำเครื่องจักรสมัยใหม่เข้ามาทดลองในพื้นที่ เพื่อเป็นการสนับสนุนการผลิตและลดปัจจัยเสี่ยงทางการผลิต
วรพจน์ กล่าวว่า บริษัททำการเปิดรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตร ภายในพื้นที่ตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรโดยตรงไม่ต้องขนส่งผลผลิตไปจำหน่ายในพื้นที่ไกลๆ และเป็นทางเลือกในการจัดหน่ายให้แก่เกษตร ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังประกันราคาจำหน่ายผลิตให้แก่เกษตร เพื่อลดแรงกดดันราคาข้าวโพดในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก บริษัทมีจุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ราคา 7.50 บาทต่อกิโลกรัม และราคาหน้าโรงอาหารสัตว์จังหวัดนครราชสีมากำหนดราคาไว้ที่ 7.90 บาทต่อกิโลกรัม
สำหรับการดำเนินโครงการในปีนี้กล่าวได้ว่าประสบผลสำเร็จอย่างดี โครงการนี้ถือกำเนิดขึ้นจากการสนับสนุนของภาคส่วนราชการต่างๆ อันประกอบด้วย นายอำเภอโนนไทย นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์ ตลอดจนหน่วยงานราชการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ โครงการนี้คงไม่ประสบความสำเร็จดังกล่าว ถือเป็นจุดเริ่มที่ดี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแนวทางจะพัฒนาเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายมุ้งสู่การทำเกษตรแปลงใหญ่ ตามนโยบายของรัฐบาล และขณะนี้มีผู้ปลูกข้าวโพดเข้าเป็นสมาชิกในโครงการ
“บริษัทยังคาดหวังแนวทางการดำเนินการข้าวโพดแปลงใหญ่ด้วยเกษตรทันสมัยให้กับเกษตรทุกภาคส่วนได้รับทราบ เพื่ออนาคตทางบริษัทจะส่วนกับส่วนราชการอื่นๆ เพื่อพัฒนาและผลักดันเกษตรกรไทยให้ก้าวสู่เกษตรสมัยใหม่ต่อไป ”
พลิกปูมหลัง บัลลังก์ โมเดล
ย้อนปูมหลังที่มาโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน “หรือ “บัลลังก์ โมเดล” ร้อยตรีฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบัลลังเปิดเผยว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับผู้บริหารเพื่อต้องการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศแล้วซ้ำซาก จนกระทั่ง เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา(นายวิเชียร จันทรโรทัย ) ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำการเกษตร โดยปรับปรุงดูแลแหล่งน้ำ ด้วยการร่วมมือกับกรมการเกษตรส่งเสริมการเพาะปลูกให้กับเกษตรในพื้นที่ประมาณ 3 ล้านไร่
ในส่วนเทศบาลตำบลบัลลังก์ สำนักงานเกษตรอำเภอโนนไทย สหกรณ์การเกษตรอำเภอโนนไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำข้อตกลงร่วม (MOU) กับ บริษัทกรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการ “ เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน ”หรือ “ บัลลังก์ โมเดล ” เพื่อให้เป็นต้นแบบของการพัฒนาส่งเสริมเกษตรให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ที่มีขบวนการบริหารจัดการข้าวโพดแปลงใหญ่ ก่อให้เกิดการร่วมกลุ่มเกษตรกรที่มีอย่างเข้มแข็ง
โครงการริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2559 เกษตรกรเข้าร่วม 360 ราย บนพื้นที่การปลูกอยู่ 7,300 ไร่ การดำเนินการปลูกข้าวโพดแปลงใหญ่ที่มุ่งเน้นผลผลิตเพิ่มขึ้น และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน รวมถึง การสนับสนุนด้านการตลาด ราคารับซื้อผลผลิตอย่างครบวงจร ทางบริษัทกรุงเทพโปรดิ๊วส์ฯให้การสนับสนุนเครื่องมือการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพที่นำไปสู่การลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ อ.โนนไทย
ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการก็จะได้รับการสนับสนุนด้านความรู้ การวิเคราะห์ดิน การวางแผน การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม ถัดมาเป็นส่วนของการจัดสรรเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น การระเบิดดินดาน ที่ผ่านมา เกษตรกรขาดความรู้และยังใช้วิธีแบบเดิมนั่นคือวิธีการไถดิน เมื่อร่วมโครงการเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรกรพึ่งคน ด้วยเกษตรสมัยใหม่ ตามนโยบายรัฐบาล ตามแนวทางประชารัฐก็ได้นำเครื่องมือที่ทันสมัย นั่นคือ “ Lipper” เป็นประโยชน์ช่วยทำให้รากข้าวโพดหยั่งรากลึกลงไปในดินมากขึ้นกว่าเดิม จะช่วยลดการสูญเสียจากปัญหาความแห้งแล้ง รวมทั้ง ทำการตรวจวัดปริมาตรน้ำฝนย้อนหลัง 4-5 ปี เพื่อให้กำหนดการเพาะปลูกที่เหมาะสม
“ โครงการนี้ประสบความสำเร็จสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรตำบลบัลลังก์ในปีแรก 2559 จากพื้นที่ 7,300 ไร่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอยู่ที่ 31 ล้านบาท มีเงินส่วนต่างเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท และในปีที่ 2 2560 ผลปรากฎว่ามีเกษตรกรในพื้นที่เทศบาลตำบลบัลลังก์เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 451 ราย พื้นที่ปลูกข้าวโพดกว่า 13,500 ไร่ ”
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนส่งผลทำให้เกษตรกรในพื้นที่ตำบลบัลลังก์ มีรายได้เพิ่มขึ้นมีความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกที่ทันสมัย