นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า ปัจจุบัน SAM มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) คงเหลือจำนวนรวมทั้งสิ้น 353,593 ล้านบาท และทรัพย์สินรอการขาย ( NPA) รวมทั้งสิ้น 23,341 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2560 SAM มียอดเงินสดรับสะสมจากการดำเนินงานด้านต่างๆ ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ (NPL) การจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) และการขายทอดตลาด รวมทั้งสิ้น 7,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของเป้าหมาย โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 4,900 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขเงินรับสะสมและกำไรสุทธิสูงกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ความสำเร็จในการดำเนินงานข้างต้นส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 SAM สามารถนำเงินส่งคืนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) แล้วรวม 4,400 ล้านบาท นับเป็นภารกิจสำคัญของ SAM ในการช่วยลดส่วนสูญเสียของภาครัฐ และสามารถนำลูกหนี้คืนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก
ส่วนผลการดำเนินงานโครงการ “คลินิกแก้หนี้” ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ริเริ่มจัดตั้งโครงการขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว แบบ One-Stop Service รวมทั้งชำระหนี้ของตนเองได้อย่างเหมาะสมตามความสามารถที่แท้จริง ควบคู่กับการเสริมสร้างวินัยทางการเงินที่ดีนั้น จากการเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน จนถึง 30 กันยายน 2560 มีผู้สนใจติดต่อสอบถามผ่าน Call Center และยื่นใบสมัครถึงประมาณ 28,000 ราย หรือเฉลี่ยประมาณ 4,000 รายต่อเดือน โดยมีภาระหนี้เงินต้นเฉลี่ยรายละ 230,000 บาทและมีหนี้กับธนาคารเฉลี่ย 3 แห่งต่อราย นับเป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลไม่มีหลักประกันและหาข้อยุติในเรื่องภาระหนี้สินของลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายของ ธปท.ได้อย่างชัดเจน แต่ด้วยข้อจำกัดของคุณสมบัติและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ทำให้ปริมาณผู้เข้าร่วมโครงการยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้ SAM ร่วมกับ ธปท.และธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเงื่อนไขคุณสมบัติ เพื่อขยายฐานลูกค้าเป้าหมายไปยังบุคคลธรรมดาที่ไม่มีรายได้ประจำ (Self Employed) รวมถึงกลุ่มลูกหนี้ที่มีการดำเนินคดีแต่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ตลอดจนการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อรองรับและช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้น
นางฐิติมา ได้กล่าวถึงผลตอบรับของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้โดยภาพรวมว่า “หลังจากได้ลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ลูกหนี้เหล่านี้สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เนื่องจากโครงการฯ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำและพิจารณาตามความสามารถของลูกหนี้ จึงช่วยลดความกังวลเรื่องการผ่อนชำระหนี้ได้มาก ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้สามารถชำระเงินได้โดยตรงที่โครงการฯ เพียงที่เดียว พร้อมให้คำแนะนำและความรู้พื้นฐานทางการเงินเพิ่มเติมให้แก่ลูกหนี้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center 02-610-2266 และสมัครผ่านเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ www.debtclinicbysam.com
“ปี 2560 นี้ จะเป็นอีกปีที่ SAM ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา SAM มีการจัดกิจกรรมด้านการปรับโครงสร้างหนี้ (NPL) อย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจกรรม การจับมือกับกรมบังคับคดี การจัดงานร่วมใจไกล่เกลี่ย งานเปิดบ้านทำงานวันหยุด และ การลงพื้นที่พบลูกหนี้ ฯลฯ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้ให้สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ส่วนการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) SAM มีการจัดงานประมูลทรัพย์สิน และเปิดบูธในงานมหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษมากมายสำหรับลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย อาทิ “SAM ออกให้ฟรีค่าภาษีการโอน” “SAM Smile Condo” สำหรับผู้ซื้อห้องชุดพักอาศัย รวมทั้ง “SAM Light ผ่อน สบาย 2 ปี ไม่มีดอก” นักลงทุนและ ผู้ที่สนใจทรัพย์สินของ SAM สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-686-1888 หรือดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ที่เว็บไซต์ www.sam.or.th และแอปพลิเคชัน Sam Smile App รวมทั้งช่องทางใหม่ล่าสุดทาง Line โดยแอด ID Line “@Samline” เพื่อรับข่าวสาร กิจกรรม และโปรโมชั่นดีๆ จาก SAM” นางฐิติมา กล่าวเพิ่มเติม