สศค.ยันดึงเงินฝากประชาชนกลับไม่กระทบใคร

0
244
สศค.แจง กฎหมายใหม่กรณีที่ประชาชนมีเงินฝากอยู่ในธนาคารนิ่งๆ เกิน 10 ปี ต้องถูกดึงมาอยู่ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งเจ้าของเงินสามารถขอคืนได้ตลอด ดีกว่าอยู่กับธนาคารพาณิชย์ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการดูแลเงินฝาก
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ. … ซึ่งจะมีการเปิดรับฟังความ คิดเห็นถึงวันที่ 14 พ.ย.2560 โดยคาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ จากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป โดยคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในปี2561
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว คือ กระทรวงการคลังจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเงินฝากในบัญชีธนาคารของประ ชาชนที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (หยุดนิ่ง) เกินกว่า 10 ปีขึ้นไปแทนสถาบันการเงิน และจัดทำระบบการค้นหาข้อมูลออนไลน์ เพื่อสืบค้นเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อให้ประชาชนเจ้าของบัญชีหรือทายาทตามกฎหมายสามารถขอคืนเงินต้นดังกล่าวได้ ผ่านขั้นตอนกระบวนการที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งหากไม่มีการจัดทำระบบค้นหาข้อมูลดังกล่าวแล้ว ประชาชนอาจจะหลงลืมหรือไม่ทราบมาก่อนว่ามีเงินจำนวนนี้อยู่ในบัญชีเงินฝาก ซึ่งประชาชนที่ต้องการสืบค้นข้อมูลนี้สามารถติดต่อสอบถามกับสถาบันการเงินเป็นรายๆ ไป
“ปัจจุบันจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีเงินฝากในบัญชีธนาคารที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินกว่า 10 ปี รวมกันแล้วประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินฝากที่มีเงินอยู่ในบัญชีไม่เกิน 2,000 บาท และต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายปีให้แก่ธนาคาร หรือทุกๆ 6 เดือน  ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้นำเงินจำนวนนี้มาเก็บรักษาไว้ให้แทนสถาบันการเงิน โดยจะอยู่ในบัญชีเงินคงคลัง ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินลดภาระในการที่ต้องมีค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวดังกล่าวและประชาชนก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นจากที่ได้หารือกับธนาคารพาณิชย์ก็ได้เห็นด้วยกับหลักการนี้ นอก จากนี้ ยังลดภาระให้แก่สถาบันการเงินที่ไม่ต้องนำเงินฝากไปสมทบเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินรวมกัน 0.47% ของยอดเงินฝาก 10,000 ล้านบาทด้วย”  
สำหรับเงินฝากของประชาชนที่กระทรวงการคลังนำมาเก็บรักษาไว้นั้น ขอยืนยันว่าจะไม่มีการนำออกไปใช้แต่อย่างใด เป็น แค่การช่วยเก็บรักษาไว้ให้แทนสถาบันการเงินเท่านั้น ซึ่งประชาชนสามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับคืนเงินฝากได้ตลอดไม่จำกัดระยะเวลา แต่หากเป็นกรณีของพันธบัตรรัฐบาลที่ครบอายุการไถ่ถอนเกิน 10 ปีแล้วยังไม่มีการแสดงหลัก ฐานเพื่อขอไถ่คอนพันธบัตรคืนนั้น ก็จะถูกนำส่งเข้าเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังดำเนินการดูแลเงินฝากของประชาชนให้เป็นมาตรฐานสากล โดยในต่างประเทศได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวในบัญชี เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะนำเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาบริหารจัดการเพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ และกันเงินสำรองอีกส่วนหนึ่งไว้เพื่อคืนให้แก่ประชาชน แต่ของประเทศไทยจะไม่มีการนำเงินก้อนนี้ออกใช้แต่อย่างใด